เรียนภาษาอังกฤษด้วยวอลลี่ และสัตว์เลี้ยงด้วยนม ลำดับที่ 1-4

ในเรื่องประลักษณ์ที่มีความสนุกสนานนี้ พวกเราจะตามเด็กชายที่มีกล้าหาญไปตลอดเส้นทางการเดินทางผ่านป่าที่มีนวดงามและแสนสวย ในอาณาจักรที่เต็มไปด้วยเขียวชมพู เขาจะได้พบสัตว์ที่น่ารักหลายสายพันธุ์ เรียนรู้เสียงของพวกเขา และแก้ปัญหาลับที่ซ่อนอยู่ และระหว่างทางเขาจะได้รับความรู้และเพิ่มความสุข และเติบโตด้วยความงาม ร่วมกันเดินทางผ่านป่าที่มีนวดงามนี้เรียบร้อยแล้ว!

หน้าเข้าประมาณ: การเดินทางมหัศจรรย์ในป่า

ในสมัยหนึ่ง ในป่าที่มีสีเขียวสวยงาม มีหงส์ขาวตัวหนึ่งที่ชื่อว่า วาลลี่ วาลลี่รักการเดินทางและมีประสบการณ์มากมาย หนึ่งเช้าวันและสวยงาม วาลลี่ตัดสินใจจะเดินทางไปยังสวนที่ใกล้ๆ

ขณะที่วาลลี่บินลอยขึ้นกลางอากาศ วาลลี่ตื่นตระหนกกับสีที่วาบตรงลึกของดอกไม้ด้านล่าง วาลลี่ชมเห็นดอกแก้วสีแดงสว่าง ดอกทูลิปสีน้ำเงินลึก และดอกดายซี่สีเหลืองแสดง วาลลี่รู้ชื่อดอกไม้เหล่านี้ในภาษาอังกฤษและต้องการแบ่งปันชื่อดอกไม้กับเพื่อนของเขา

วาลลี่ลงจากพื้นและเจอกลุ่มเด็กที่เล่นใกล้ทางเข้าสู่สวน วาลลี่เริ่มคุยกับเด็กๆ ในภาษาอังกฤษ โดยใช้คำเรียกเรื่องที่ง่ายๆ อย่างเช่น “ดอกไม้” “แดง” “น้ำเงิน” และ “เหลือง” เด็กๆ ตกตะลึงและยินดีที่จะเรียนรู้มากยิ่งขึ้น

วาลลี่ชี้แสดงให้เด็กๆ ดูภาพของสัตว์และขอให้เด็กๆ จงเดาชื่อของสัตว์เหล่านั้น เด็กๆ จงเดาว่ามันคือ “แมว” “หมา” และ “นก” วาลลี่ชวนเกียรติให้เด็กๆ จากความพยายามของพวกเขา แล้ววาลลี่เรียกชื่อภาษาอังกฤษของสัตว์เหล่านี้ให้เด็กๆ ฟัง คือ “แมว” “หมา” และ “นก”

ขณะที่วันผ่านไป เวลาแรกของคืน วาลลี่เห็นปลากระโดดออกมาจากหน้ำในทะเลสาบ เด็กๆ ตกตะลึงและเรียนรู้ว่าปลานี้เรียกว่า “ปลา” ในภาษาอังกฤษ

วาลลี่ยังพาเด็กๆ ไปหาซากทรัพย์ด้วยการซ่อนคำภาษาอังกฤษตามทั่วสวน เด็กๆ ต้องหาคำภาษานั้นและอ่านมันออกมาด้วยเสียง เด็กๆ สนุกกับเกมนี้และเรียนรู้คำภาษามากมาย เช่น “ต้นไม้” “อาทิตย์” และ “กาแลง”

ขณะที่ดวงอาทิตย์เริ่มตก วาลลี่ตระหนกว่าเป็นเวลาที่เขาต้องกลับบ้านแล้ว ดาวเด็กๆ ให้สัญญาว่าจะมาเยือนสวนอีกครั้งและก้าวข้ามทางเรียนภาษาอังกฤษด้วยวาลลี่

และดังนั้น หงส์ขาวที่มีจิตวิญญาณที่มีความอดสนุก ไม่เพียงแต่แบ่งปันความรักกับธรรมชาติ แต่ยังเรียนรู้ให้เด็กๆ ว่าการเรียนภาษาใหม่สามารถเป็นสิ่งที่มีความสนุกและน่าตื่นเตือนเมื่อเราเริ่มเดินทางผ่านโลกที่อยู่รอบตัวเรา

การเริ่มต้นการขุดค้น

มันมีเทอมที่ไม่ง่ายเหมือนกันหรือเช่นนี้:

เมื่อเช้าวันที่มีแสงแดดเมฆแตกอย่างเมฆมัวมัน มิ่ม กับพ่อแม่ของเขาตัดสินใจที่จะเดินเดินทางไปร่วมออกเดินเดินที่สวนใกล้บ้าน。มิ่มนั้นมีความดุดดันดันเล็กน้อยที่ถือกระเป๋าเล็กติดหลังตัวที่บรรจุเล็กน้อย ของเครื่องเล่นและอาหารเล็กน้อยอยู่ด้วย ขณะที่พวกเขาเข้าสู่สวน พวกเขาได้ยินเสียงร้องนุ้งของนกอย่างหลากหลาย มิ่มยกมือขึ้นมองเห็นนกหงอนที่ตั้งอยู่บนกิ่งไม้

“เห็นไหม พ่อ! นกหงอนนี้!” มิ่มกล่าวติดตลก

พ่อยิ้มและตอบว่า “ใช่นะ มิ่ม นกหงอนนี้คือชาติของนกที่มาตั้งถิ่นฐานในฤดูใบไม้ผลิ มีขนสีทองเหลืองมากที่มีความงาม”

มิ่มตั้งคำถาม “ทำไมว่านกหงอนถูกเรียกว่า ‘หงอน’ นัก?”

แม่อธิบายว่า “เพราะขนของมันเหมือนสายทองที่เลือดแข็งตกแตง ทำให้มีความงามอย่างแข็งขัน ในฤดูใบไม้ผลิ นกมากมายจะบินกลับมาจากตอนใต้ เสียงของมันมีความงามที่สามารถบอกแก้วว่าฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงแล้ว”

มิ่มฟังแล้วรักมันมากขึ้นแล้ว “แม่ ทำไมว่าดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิเป็นตัวงามมากกว่าในฤดูหนาว?”

แม่ตอบว่า “เพราะฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่ทุกอย่างปฏิวัติตัวเอง แสงแดดและน้ำฝนทำให้พืชไม้เติบโตเร็วขึ้น ดอกไม้ก็บานได้งามขึ้นมากขึ้น นั่นที่เธอก็สามารถรู้สึกกลิ่นหอมดอกไม้ได้ด้วย”

มิ่มหายใจลึกลงไปแล้วยิ้มและบอก “แรงน่ารักและกลิ่นดอกไม้นี้ดีมาก!” แม่บอกว่า “แน่นอน มีดอกไม้อื่นอีกมากที่มีสีและกลิ่นเดี่ยวเดียวกัน อย่างเช่นดอกเบา ดอกเข็ม และดอกขนม”

พวกเขาก็เดินไปต่อ มิ่มพบเห็นหาญี่ยะกำลังบินลากลงในฝ่ายดอกไม้

“แม่ ดูนั้น! คือหาญี่ยะ!” มิ่มชี้หาญี่ยะบอก

แม่มองเห็นหาญี่ยะแล้วยิ้มและบอก “ใช่นะ มิ่ม หาญี่ยะคือส่วนหนึ่งของฤดูใบไม้ผลิที่บอกเราว่าฤดูใบไม้ผลิจริงๆ ได้มาถึงแล้ว”

มิ่มและพ่อแม่ก็เดินเดินต่อในสวน สนุกสนานกับความงามของฤดูใบไม้ผลิ มิ่มได้เรียนรู้ถึงสิ่งแวดล้อมที่อายุต่อบริเวณ และได้รับความรู้ที่เกี่ยวกับฤดูใบไม้ผลิมากมาย มิ่มรู้สึกดีมากเพราะเขาไม่เพียงแค่ใช้เวลาในการเดินเดินทางไปร่วมออกเดินเดินเท่านั้น แต่ยังได้รับความรู้ใหม่ด้วยด้วย

ช่วงที่สอง: ได้พบสัตว์ต่างๆ

ในเช้าวันที่มีแสงแดดระลอกๆ หลายคน มิ่ม และเพื่อนๆ ของเขาตัดสินใจจะไปเล่นป่าสวนใกล้บ้าน。พวกเขาเดินตามทางเล็ก และสนุกสนานกับภาพสวรรค์ที่อยู่รอบๆ พร้อมกับกล่าวกันเอง

“ดูไหนนี้เซ! สัตว์นี้ติดกิ่งไม้!” พี่สนิทของมิ่ม หลวง ชี้ไปยังนกสีเหลืองที่ติดกิ่งไม้บน

“เซ! นี่คือนกกินดอกไม้!” มิ่มตอบกลับด้วยความดุดด้วยความยินดี, “มันกำลังร้องเพลงอยู่นี้!”

พวกเขายังคงเดินไป และอย่างไรก็ตาม พวกเขาพบกุ้งสาวจากไม้กระโดดลงมา และมองดูพวกเขาอย่างเหนือความคาดหวัง

“กุ้งสาว คุณดีจัง!” มิ่มสวายกุ้งสาว

กุ้งสาวดูเหมือนจะดึงดูดด้วยเสียงของพวกเขา และไม่หลบหนี แต่อยู่เหนือพวกเขาอย่างหลงหละ

“คุณชอบยังอะไรที่กิน?” มิ่มถาม

กุ้งสาวเหนือตา และดูเหมือนว่ากุ้งสาวจะพูดว่า “ฉันชอบกินฝาน”

พวกเขายังคงเดินเท้าต่อ และได้พบสัตว์ต่างๆ ที่มีการประชุมกันเล็กน้อยกับพวกเขา

“นี่คือนกหงส์ดำ มันกำลังว่ายน้ำที่ข้างหลวงทะเลสาบ” มิ่มชี้ไปยังนกหงส์ดำที่ว่ายน้ำที่ทะเลสาบ

“หงส์ดำ สวัสดีครับ!” หลวงพูดด้วยภาษาอังกฤษและหงส์ดำก็ว่ายน้ำผ่านไปด้วยความเปิดเผยในการตอบโต้

“คุณรู้ว่าสัตว์ทุกตัวมีบ้านของตัวเองหรือไม่?” มิ่มถาม

“ต้องการรู้แล้ว!” หลวงตอบ

พวกเขาเดินไปต่อ และสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบๆ และเรียนรู้ถึงวิถีของสัตว์

“ดูนี้ดูเหมือนดอกไม้ที่งดงาม!” มิ่มชี้ไปยังดอกไม้ที่ทางบริเวณ

“ใช่แล้ว ฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว ดอกไม้ทั้งหมดก็เปิด” หลวงบอก

พวกเขายังคงเดินเท้าต่อในป่าสวน และทุกครั้งที่พวกเขาพบสิ่งใหม่ พวกเขาก็จะกล่าวกันเองกับกัน และสนทนาด้วยภาษาอังกฤษ

การเดินทางป่าสวนที่เรียบง่ายๆ นี้ไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขาได้รู้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์และธรรมชาติด้วยภาษาอังกฤษ แต่ยังเพิ่มความมีสายตากันระหว่างกันของพวกเขาด้วย

ทศแห่งที่สาม: การเรียนรู้เสียงสัตว์

เช้าวันที่มีแสงแดดอย่างระเบิด สัตว์เลี้ยงด้วยนมต่างๆ มารวมตัวกันบนเลนทางในป่าเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ของพวกเขา พวกเขาอาลัยตัวและสนใจในการสังเกตสิ่งแวดล้อมที่ต่อไป จริงๆ แล้ว หนูหนึ่งตัวที่มีลักษณะน่ารักบินออกมาและกล่าวว่า “สวัสดีครับค่ะ บรรดาเพื่อน! วันนี้เราจะเรียนรู้เสียงของสัตว์”

หนูนี้เอาหนังสือการ์ตูนที่มีรูปของสัตว์มาและบอกว่า “ดูเหมือนนี้คือแมว ส่วนเสียงของมันคือ ‘มัวมัว’” แมวก็ลอกเสียง “มัวมัว” และสัตว์อื่นๆ ก็ตามตามลำดับที่เรียก

หลังจากนั้น หนูก็เปิดหน้าต่อไปของหนังสือการ์ตูนที่มีรูปของนกหนึ่ง หนูบอกว่า “นี่คือนก ส่วนเสียงของมันคือ ‘เช๊อ’ และ ‘เช๊อ’” นกก็เคลื่อนทองขาวและปลายเท้าทองของมัน เสียง “เช๊อ” และ “เช๊อ” และสัตว์อื่นๆ ก็ตามตามลำดับที่เรียก

หนูก็วานต่อไปและหน้าต่อไปของหนังสือการ์ตูนมีรูปของสุนัขหนึ่ง หนูบอกว่า “นี่คือสุนัข ส่วนเสียงของมันคือ ‘ว่อ’ และ ‘ว่อ’” สุนัขก็หมุนหูและเสียง “ว่อ” และ “ว่อ” สัตว์อื่นๆ ก็มีความสนใจในการเรียนรู้เสียงของสัตว์ และพวกเขาก็เริ่มต้นที่จะลอกเสียงของสัตว์ต่างๆ

จนเมื่อเสียงที่ประหลาดก็มาจากลึกซากป่า หนูก็บอกว่า “เสียงนี้ดูเหมือน ‘หวว’ และดูเหมือนเป็นลมเฉียงเข้ามา” สัตว์อื่นๆ ก็หยุดและฟังอย่างเงียบๆ แมวที่มีความเข้มงวดก็บอกว่า “เสียงนี้เหมือน ‘หวว’ และดูเหมือนเป็นลมเฉียงเข้ามา”

หนูก็เห็นและบอกว่า “ใช่นั้น เสียงนี้คือเสียงลม” สัตว์อื่นๆ ก็รวมตัวกันและรู้สึกลมเฉียงเข้ามาบนหน้าของพวกเขา และพวกเขาก็เรียกเสียง “หวว” ด้วยกัน

หลังจากที่เรียนรู้เสียงของสัตว์เสร็จ หนูก็บอกว่า “วันนี้เราเรียนรู้เสียงของสัตว์ที่มากมาย ตอนนี้เราจะไปหากลุ่มสัตว์ในป่าเพื่อตรวจสอบเสียงที่เราเรียนรู้ไปแล้ว” สัตว์อื่นๆ ก็ดันดันกันอย่างน่ายอดเยี่ยมตามหนู

ในป่า พวกเขาได้พบกับสัตว์ต่างๆ และในแต่ละตัวที่พบ พวกเขาก็ยืนยันเสียงที่พวกเขาเรียนรู้ไปแล้ว ในที่สุด พวกเขาพบกับหนูตะกอนที่กำลังเล่นเสียงเคลื่อน “บิ๊ก” ซึ่งเป็นเสียงที่พวกเขายังไม่ได้เรียนรู้

หนูก็บอกว่า “ดีเหลือนไหม พวกเขาเรียนรู้เสียงของสัตว์ทั้งหมดและยังพบเสียงใหม่ด้วย วันนี้เป็นวันที่มีผลผลิตมากมาย” สัตว์อื่นๆ ก็ยิ้มกับกันและกลับไปเล่นเลียนกันในป่า และสนุกสนานกับธรรมชาติที่งดงาม

ท้องตอนที่ 4: การหาคำซ้ำที่ซ่อนตาไว้

ในบ่ายที่มีแดดออกอย่างแสนเปลาดใจ หนูอีมี่ตัดสินใจที่จะไปสำรวจป่า. เธอพกตัวสมุดที่เขียนด้วยคำศัพท์ และต้องการหาคำศัพท์เหล่านั้นในระหว่างการเดินทาง. หนูอีมี่เดินตามทางแยกเล็กๆ และอย่างไรก็ตาม ตามหนึ่งตอน เธอเห็นนกหนึ่งยืนอยู่บนกิ่งของต้นไม้ใหญ่.

หนูอีมี่รอบเอาสมุดออกมา และหาแก้วคำ “hen” อยู่ในนั้น. เธอแสดงความยินดีออกมาว่า: “fowl! i found a bird!” นกดูเหมือนจะตกตะลึงด้วยเสียงของเธอ แต่มันไม่ได้บินไป และยังชอบชักชวนดูหนูอีมี่.

หนูอีมี่กินหายนะและหนี้หน้าหนาวไปด้วยทาง และไม่นานก็พบแม่น้ำเล็กหนึ่ง. น้ำในแม่น้ำสะอาดและเห็นกุ้งกำจังและหนุนขึ้นกว่าน้ำ. หนูอีมี่หาแก้วคำ “frog” อีกครั้งและเขียนมันลงในสมุด.

ขณะนั้น ลมพัดเข้ามาและหนูอีมี่พบใบไม้สีสันที่มีมากมาย. เธออ่อนตัวเอาใบไม้นั้นมา และพิจารณาอย่างละเอียด. สีของใบไม้ทำให้เธอจำคำ “colour” และเขียนมันลงในสมุด.

หนูอีมี่เดินทางต่อในป่า และเจอหลากหลายสัตว์ต่างๆ ในระหว่างการเดินทาง. เธอเจอแมว “cat” และเห็นสุนัข “canine” และได้ยินเสียงนก “fowl”. สมุดของเธอได้เต็มไปด้วยคำศัพท์แล้ว.

หนูอีมี่มาถึงขอบป่า และเห็นหินใหญ่หนึ่งที่ติดอยู่บนผิวของมัน และบนหินมีคำ “rock” ตั้งอยู่. เธอยินดีที่จบการสำรวจในวันนี้ และกลับบ้านด้วยความรู้สึกมีผลงาน.

หนูอีมี่เรียกแชร์ประสบการณ์ของเธอและคำศัพท์ที่เธอหาได้กับเพื่อนๆ และทุกคนที่ยินดีที่จะมองเห็นความยินดีของเธอ และให้แนะนำให้เธอยังคงต่อเนื่องเดินทางเพื่อเรียนคำศัพท์มากขึ้น. หนูอีมี่ตัดสินใจว่าเธอจะไปสำรวจป่าอีกวันหนึ่ง และยังคงเดินทางในรายการคำศัพท์ของเธอ.

สุดท้าย: รับรู้ความรู้ และเติบโตด้วยความยนต์ยิ่ง

ในการเดินทางลึกลับเข้าป่าครั้งนี้ เด็กๆ ไม่เพียงแค่ได้เรียนรู้จากหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ แต่ยังได้รับประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษผ่านการเล่นเกมและปฏิสนธ์ด้วยกันอีกด้วย ระหว่างที่เรื่องสะสมด้วยเวลา จะให้เรารวมแรงจดจำประสบการณ์และการเติบโตของเด็กๆ ในป่า

เด็กๆ ได้พบกับสัตว์ที่มีชีวิตอยู่ทั่วป่า จากหนูอย่างที่เร็วเรวและสูงโดยหลังที่แมวช้าง พวกเขาไม่เพียงได้รู้ชื่อสัตว์เหล่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้วิญญาณของพวกเขาด้วยภาษาอังกฤษ ตัวอย่างเช่น เมื่อเด็กๆ ชมหนูเล็กที่หนีดอยู่ในป่า พวกเขาจะบอกว่า “look at the adorable little bunny! it’s hopping around the wooded area.”

ในระหว่างการตัวตลอด เด็กๆ ยังได้เรียนรู้เสียงของสัตว์ พวกเขาได้เรียนที่จะกล่าวเสียงของนกที่ร้องเสียงแห่งหนึ่ง แมวหมู่ที่สcream และแมวช้างที่ growl นี่ไม่เพียงเพิ่มความรู้เกี่ยวกับสัตว์ แต่ยังเพิ่มความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษและการฟังเสียงด้วย

เล่นเกมหาคำภาษาอังกฤษที่ซ่อนอยู่เป็นเกมหนึ่งในการสำรวจ เด็กๆ ได้หาคำภาษาอังกฤษที่ซ่อนอยู่ทั่วป่า เช่น “tree”, “river”, และ “fowl”. แต่งยังหาคำใหม่อีกคำ พวกเขาก็จะมีความยินดีและเรียกเสียงด่างดายและแบ่งปันกับเพื่อนๆ

ขณะที่เรื่องเรียบร้อยขึ้น เด็กๆ ได้รวบรวมผลงานการเรียนรู้ของตนเอง พวกเขาไม่เพียงได้รู้ชื่อสัตว์และเสียงของพวกเขา แต่ยังได้รู้ว่าจะบอกภาษาอังกฤษเพื่อเอยการบอกเวลา ฤดูกาล และกิจกรรมประจำวัน ตัวอย่างเช่น พวกเขาจะบอก “proper morning” เพื่อขอต้อนรับเพื่อน หรือ “i like apples” เพื่อแสดงความชอบของตน

ในท้ายทางการเดินทาง เด็กๆ รู้สึกดีและมีความพึงพอใจมาก พวกเขาไม่เพียงได้รับความรู้ แต่ยังได้รับมิตรและความมั่นใจในตนเองด้วย ผ่านประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษที่มีความสนุกและมีสนาน เด็กๆ ไม่เพียงได้เพิ่มระดับภาษาอังกฤษของตนเอง แต่ยังได้รู้ว่าว่าเรียนรู้สามารถเป็นสิ่งที่มีความสนุกและมีสนานในบรรยากาศที่น่าสนุก

เรื่องนี้บอกให้เรารู้ว่าการเรียนภาษาอังกฤษนั้นสามารถเป็นสิ่งที่มีความสนุกและมีแรงขับเคลื่อนอย่างมาก ด้วยการผสมผสานเรื่องราว การเล่นเกม และกิจกรรมปฏิสนธ์ เด็กๆ สามารถเรียนรู้ความรู้ใหม่ในบรรยากาศที่สบายใจและเติบโตในทางด้านการเติบโตของตนเองอย่างสบายใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *