แมวเลี้ยงแบบSO SUCHE ใช้ยังไงเรียนภาษาอังกฤษและบรรลุผลกว่าผิดพลาด

ในเรื่องที่มีสัตว์เลี้ยงด้วยความศรีมงคลนี้ แมวเลี้ยงที่มีกำลังใจที่ชั้นยอดเริ่มต้นเดินทางการเรียนภาษาอังกฤษด้วยความสุดท้ายของตนเอง。ตามบัลลังก์ของมัน เราจะพร้อมกันดูแมวเลี้ยงนี้ที่มีท่าทีเพื่อช่วยเหลือประชาชนและรับประสบการณ์การเติบโตและเพื่อนของมันในระหว่างทางนี้。

เรื่องนำเข้า: ขาวบางเรียนภาษาอังกฤษบนเท้าสนิท

มันเป็นเช้าวันที่มีแดดออกมายังตายังสวยงาม แมวTom ตื่นขึ้นมาและขยับขาย่างสบาย มันตัดสินใจว่าวันนี้มันจะเรียนรู้อะไรใหม่คือภาษาอังกฤษ เพราะTom รู้ว่าการเรียนภาษาอังกฤษจะช่วยให้มันเข้าใจโลกนอกได้ดีขึ้น และอาจจะได้พบเพื่อนใหม่ด้วย

Tom ได้เรียนคำของทางเรียกแบบพื้นฐานเช่น “desirable morning” และ “How are you?” มันลองทำนายเสียง และฝึกในการพูดด้วยเสียงที่มีความสัมพันธ์กัน หลังจากนั้น Tom ได้เรียนคำเกี่ยวกับอาหารเช่น “apple” และ “banana” และ “catfish”

สิ่งที่Tomชอบที่สุดคือการแสดงเสียงเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกสาว มันพยายามทำนายเสียง “tweet” ของกลุ่มหงส์และ “woof” ของสุนัข และแต่ละครั้งที่Tomสำเร็จที่จะแสดงเสียงเหมือนนั้น มันจะดุดด้วยความดีใจ

ของเที่ยงวัน Tom ได้เรียนคำเกี่ยวกับสี มันมองแหวกโลกต่อไปและพบว่าดอกไม้และใบไม้ทุกต้นมีสีที่แตกต่างกัน มันได้เรียนว่า “purple” และ “blue” และ “green” และสามารถบอกเอาเองได้ถึงสีที่ถูกต้อง

เมื่อสงามเริ่มขึ้น Tom ได้เรียนคำเกี่ยวกับฤดูกาล มันจำได้ถึงดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ แสงแดดในฤดูร้อน ใบไม้ที่ตกในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในฤดูหนาว มันได้เรียนว่าจะบอกเอาเองได้ถึงคุณสมบัติของฤดูกาลต่างๆ

ในขณะที่มันเรียน Tom ได้เผชิญกับบางความยากลำบาก บางครั้งมันไม่จำได้คำ บางครั้งมันไม่หาถึงวิธีที่จะบอกเอาเองด้วยประโยคที่ถูกต้อง แต่Tomไม่ยอมรับความยากลำบาก มันยังคงฝึกต่อไปจนกระทั่งสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ตลอดเวลา

เมื่อสงามมืดลง Tom รู้สึกมีความพึงพอใจมาก มันรู้ว่ามันได้ย้ายข้ามขั้นตอนสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ และTomเชื่อว่าด้วยการเรียนเรียนและปฏิบัติที่มีน้ำมัน มันจะสามารถสำรวจโลกที่กว้างขวางด้วยภาษาอังกฤษได้

ข้อบรรยายภาคแรก: ทำไมแมวเล็กต้องเรียนภาษาอังกฤษ?

ในเมืองแห่งความเย็นชาดเดียวกันนี้ มีหนูแกะตัวหนึ่งตัวที่ชื่อว่ามิมี่ มิมี่เป็นหนูแกะที่มีความสมองและเข้าใจสิ่งใหม่ง่าย และมีความสนใจต่อสิ่งใหม่เสมอ วันหนึ่ง มิมี่ได้พบหนังสือเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษในห้องสมุดของเมือง ซึ่งถูกหนังสืออื่นทับอยู่ในมุมหนึ่งของห้องสมุด

มิมี่ถูกดึงดูดโดยคำศัพท์และประโยคภาษาอังกฤษในหนังสือ และตัดสินใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษ มิมี่รู้ว่าการเรียนภาษาใหม่ต้องการความมีความจงเจตและความเสมอยัน ดังนั้นมิมี่จึงใช้เวลาบางช่วงทุกวันเพื่อเรียนเรียก

มิมี่เริ่มจากการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อักษรตัวแรก และทำการเขียนอักษรตามวันจนกว่าจะสามารถเขียนทั้งหมดได้ตัวแต่ละอักษร หลังจากนั้นมิมี่ก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษด้วยคำศัพท์ที่เรียบง่าย อย่างเช่น “cat” “dog” “chook” และพยายามใช้คำศัพท์เหล่านั้นทำประโยค

เรื่อยมาแล้วความสามารถในภาษาอังกฤษของมิมี่ก็เพิ่มขึ้น มิมี่เริ่มอ่านหนังสือเรื่องภาษาอังกฤษ ถึงแม้จะอ่านช้าเมื่อแรก แต่เรื่อยมามิมี่ก็สามารถเข้าใจเนื้อหาของหนังสือได้ ในขั้นตอนนี้ มิมี่ยังได้เรียนวิธีที่จะถามคำถามด้วยภาษาอังกฤษ เช่น “wherein is the cat?” หรือ “are you able to show me the dog?”

วันหนึ่ง มิมี่ได้พบหนูขาวที่กำลังเล่นเลียนในสวนของเมือง หนูขาวเห็นมิมี่และเรียก “Woof! Woof!” มิมี่สามารถเข้าใจคำของหนูขาว และตอบกลับด้วยความยินดี “hi there, dog! My call is Mimi. i’m studying English.”

เหตุการณ์นี้ทำให้มิมี่มีความยืนยันในการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น มิมี่จึงพยายามใช้ภาษาอังกฤษเพื่อติดต่อสื่อสารกับสัตว์อื่นเหมือน นก หรือ หนู และแม้แต่เด็กๆในเมือง มิมี่พบว่าถึงแม้สัตว์บางตัวไม่สามารถเข้าใจภาษาอังกฤษได้ แต่มันก็รู้สึกสนใจกับทักษะใหม่ของมิมี่

มิมี่มีสายตาเห็นว่าการเรียนต่อไปนั้นไม่มีทางแยก มันอาจจะทำผิดพลาดในการเขียนคำศัพท์ หรือใช้ประโยคมากมาย แต่ในทุกครั้งที่มีปัญหา มิมี่จะพยายามที่จะเหนือกว่านั้น มันรู้ว่าเพียงการฝึกฝนและเรียนเรียกต่อไปเท่านั้นที่จะทำให้ภาษาอังกฤษของมันเรียบร้อย

ในที่สุด มิมี่กลายเป็นตัวยงของเมือง มันไม่เพียงแค่เรียนภาษาอังกฤษแต่ยังช่วยสัตว์อื่นและเด็กๆในเมืองเรียนภาษาอังกฤษด้วย เรื่องของมิมี่ก็เริ่มเล่ากันทั่วเมือง และกลายเป็นที่เล่าลือของประชาชน มิมี่ก็กลายเป็นแบบอย่างสำหรับทุกสัตว์ด้วยความพยายามที่ไม่สละสมอนและความรักที่มีต่อการเรียนเรียก

:ศึกษากระบวนการ:คำศัพท์อังกฤษและรูปแบบประโยค

ขุนมีมองโลกแห่งนี้ด้วยความสนใจอย่างมาก มันเข้าใจว่าต้องการเรียนรู้ทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก วันหนึ่ง แม่ของขุนมีได้ตัดสินใจให้ขุนมีเรียนภาษาอังกฤษ เพราะขุนมีเป็นแมวที่มีสมองดีที่สามารถรับรู้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ขั้นตอนแรกในการเรียนเป็นภาษาอังกฤษคือรู้คำภาษาฺพื้นฐานที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน

แม่ของขุนมีได้ขุนมีรู้คำภาษาซึ่งเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น “cat” (แมว) “meals” (อาหาร) “play” (เล่น) “sleep” (นอน) และ “water” (น้ำ) ขุนมีจะดูภาพที่มือแม่และเรียกคำภาษาตาม

เมื่อขุนมีเรียนรู้คำภาษาเรียบร้อย แม่ของขุนมีก็เริ่มที่จะเรียนขุนมีบนวลีที่ง่าย อย่างเช่น “i’m a cat” (ฉันเป็นแมว) ขุนมีจะพูดตามกับแม่ แล้วแม่ก็เรียนขุนมีวิธีการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อแสดงการกระทำ เช่น “run” (วิ่ง) “leap” (กระโดด) และ “sit” (นั่ง)

แม่ของขุนมียังได้เรียนขุนมีวิธีการพูดคุยประจำวันที่มีประโยชน์ อย่างเช่น “accurate morning!” (เช้าโดยสวัสดี) “appropriate night!” (สวัสดีคืน) และ “can i play with you?” (ฉันสามารถเล่นกับคุณไหม?) ขุนมีจะตอบคำถามที่แม่ถามอย่างถูกต้อง ซึ่งทำให้แม่มีความดีใจมาก

เมื่อการเรียนรู้มุ่งหน้าเพิ่มขึ้น ขุนมีก็เริ่มที่จะพยายามบอกเรื่องที่มีตัวเองด้วยภาษาอังกฤษ เช่น “I noticed a fowl in the tree” (ฉันเห็นหนูบินบนต้นไม้) หรือ “i found a ball” (ฉันพบลูกบอล) แม่ของขุนมีจะให้ความเคลืองใจและช่วยแก้ไขพยายามที่ขุนมีเรียกเสียง

ด้วยกระบวนการเรียนรู้นี้ ขุนมีไม่เพียงแต่จะรู้คำภาษาและวลี แต่ยังสามารถแสดงความคิดและการรู้สึกของตนด้วยภาษาอังกฤษด้วย ระดับภาษาของขุนมีได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาที่ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ขุนมีรู้สึกยิิงประสิทธิ์มาก การเรียนรู้ทุกวันที่มีความสนุกสนาน และขุนมีและแม่ของขุนมีก็ได้พร้อมกันเข้าดูดรรรกษ์ช่วงเวลาที่ดีแห่งนี้มากมาย

แอพพลิเคชัน สำหรับช่วยเหลือประชาชน ตัวอย่าง

เมื่อช่วงบ่ายที่มีแสงแดดระเริญระเริญ แมวมีมี่ตัดสินใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อช่วยประชาชนมากขึ้น มันเริ่มจากคำศัพท์พื้นฐานเช่น “hey”, “goodbye” และ “please” มีมี่พบว่าด้วยการประชุมมากกับเพื่อนๆ มันสามารถจำคำศัพท์ได้เร็วขึ้น

หนึ่งวันที่มีมี่ไปที่สวนสาธารณะ มันได้พบสุนัขตัวหนึ่งที่เดินทางไปทางที่ผิด สุนัขใช้ภาษาอังกฤษขอความช่วยเหลือจากมีมี่ว่า “are you able to help me locate my way domestic?” มีมี่ไม่ต้องคิดอย่างนานก็ตอบว่า “Of course, observe me!” สุนัขตกใจมากที่มีมี่ช่วยตามทางกลับบ้าน

วันอื่นหนึ่ง มีมี่ไปที่ร้านเหล็กและเหล็กเล็ก มีมี่เจอนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังหาแอบเป๊ป มีมี่บอกให้นักท่องเที่ยวว่า “Do you want an apple?” นักท่องเที่ยวเห็นชอบและมีมี่ช่วยหาแอบเป๊ปให้เขา นักท่องเที่ยวชื่นชมและบอกว่า “thank you very a lot!” มีมี่รู้สึกยิิงประสิทธิ์มาก เพราะมันรู้ว่ามันช่วยประชาชนและยังเพิ่มความสำคัญของภาษาอังกฤษด้วย

มีมี่ยังเรียนวิธีการถามเวลาด้วยภาษาอังกฤษว่า “What time is it?” มันยังสามารถพูดคุยกับปลาที่ถังปลาในร้านสัตว์เลี้ยงด้วยภาษาอังกฤษว่า “whats up, beautiful fish!” ปลาดูเหมือนที่มีมี่เป็นเพื่อนใหม่และเลี้ยงตัวเริ่มเดินทางไปตามมัน

ขณะเดินหน้า มีมี่กลายเป็นผู้ที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น มันยังเริ่มสอนสัตว์อื่นเรียนภาษาอังกฤษด้วย แต่ละต่อเมื่อมีสัตว์ที่มีปัญหา มีมี่จะช่วยด้วยภาษาอังกฤษและทำให้พวกเขารู้สึกถึงความเป็นมิตรและความช่วยเหลือ

ผ่านทางสถานการณ์ที่มีมี่ใช้ภาษาอังกฤษในการประกอบกรรม มีมี่ไม่เพียงแค่เรียนภาษาอังกฤษแต่ยังเรียนวิธีการช่วยประชาชนด้วยภาษาอังกฤษ เพื่อนมีมี่ของมันก็เริ่มเรียนเรียนภาษาอังกฤษด้วย ทั้งหมดของชุมชนสัตว์เลี้ยงได้รับการนำโดยมีมี่และส่งมาลองรักและความช่วยเหลือด้วยภาษาอังกฤษ

ผลลัพธ์และการเติบโต: การเปลี่ยนแปลงของแมวเลี้ยงและผลกระทบที่มีต่อมัน

เมื่อเด็กหมาได้ประสบกับการเรียนภาษาอังกฤษในการเดินทางของมัน มันมีหลายสิ่งที่น่าสนุกสนานและเปลี่ยนแปลงอย่างมากด้วย มันไม่ได้เพียงเป็นสัตว์เลี้ยงที่หยุดยั้งในบ้านอีกต่อไป แต่กลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถกล่าวภาษาอังกฤษเพื่อติดต่อมนุษย์ได้

เมื่อเด็กหมาเรียนภาษาอังกฤษเบื้องต้น มันได้เรียนคำวา�ายของภาษาอังกฤษเช่น “hey” และ “goodbye” และเมื่อมีมนุษย์มาเยือนบ้าน มันจะเข้ามาพบและพูดคำวากดังกล่าวอย่างเป็นอิสระ ทำให้มีการประหลาดใจและความสนใจจากผู้มาเยือน นอกจากนี้ มันยังได้เรียนวิธีการแสดงความต้องการของมันเช่น “Water” และ “meals” ซึ่งทำให้มันสามารถติดต่อครอบครัวได้ดีขึ้น

เมื่อความสามารถในภาษาอังกฤษของมันเพิ่มขึ้น เด็กหมาได้พยายามบอกเรื่องของมันด้วยภาษาอังกฤษด้วย เมื่อมีการประชุมครอบครัว มันจะบอกเรื่องน่าสนุกของวันของมันด้วยภาษาอังกฤษ ทำให้มีการประชุมและเสียงร้องเสียงรวมกัน

ที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ เด็กหมาได้พยายามช่วยเหลือผู้อื่นด้วยภาษาอังกฤษด้วย มันได้เรียนวิธีการบอกคำขอช่วยเหลือด้วยคำว่า “are you able to assist me?” และแสดงความขอบคุณด้วยคำว่า “thanks” ในสวนสนุก มันจะเข้ามาติดต่อเด็กๆ และสอนคำภาษาอังกฤษง่ายๆ ให้พวกเขาเรียนรู้ขณะที่เล่นเล่น

ในขณะที่เด็กหมาเรียนภาษาอังกฤษ มันยังได้เรียนวิธีการประชาสัมพันธ์กับผู้อื่น และวิธีการช่วยเหลือผู้อื่นด้วย การเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของมันทำให้ครอบครัวรู้สึกอยากติดตามมากขึ้น เรื่องของเด็กหมาบอกให้เรากล่าวว่า การเรียนภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่เป็นการปรับปรุงทักษะ แต่ยังเป็นการปรับปรุงบุคลิกภาพด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *