สนทนาภาษาอังกฤษเด็กอนุบาล สำหรับท้องที่ที่มีนักเรียนอังกฤษ

ในเช้าวันเฟฬ์แสงแดด หมายเด็ก หมอน และเพื่อนๆของเขาตัดสินใจจะไปเลือกตัวที่สวนเพื่อการโยนเพลิงประสบการณ์แห่งธรรมชาติของพวกเขา แสงแดดเข้าผ่านกิ่งไม้ทำให้มีร่องแรงแสงสลับพลิกผันที่ดิน พวกเขานำความสนใจมา และเตรียมตัวเพื่อการเดินทางสำหรับการโยนเพลิงของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นไปแล้ว

หน้าต่างหนึ่งของเช้าแห่งแสงและความร้อน

เช้าวันที่มีแสงแดดสว่างมาก หมิ่ม และเพื่อนๆของเขาตัดสินใจที่จะไปเลือยป่าเพื่อเดินทางการสำรวจธรรมชาติ。แสงแดงที่เข้าผ่านผลไม้สะท้อนออกมาเหมือนแสงใต้ต้นไม้ที่มีแสงสว่างและมีลายแสงที่แตกต่างกันลงบนพื้นดิน。พวกเขาพากันมาด้วยความสนใจสูง พร้อมที่จะเริ่มเดินทางทางธรรมชาติของพวกเขา。

หมิ่มชี้ไปที่ท่องเกาะในกลุ่มไม้และบอกว่า:“ฟังเสียงไหนนี้? มันเหมือนเสียงน้ำไหลไป”

เฮ้วตอบว่า:“นั่นคือเสียงน้ำไหล”

หม่องเสริมว่า:“ยังมีเสียงร้องของนกด้วย ที่ดีมาก”

เด็กๆเริ่มสนใจเสียงราวๆที่อยู่รอบๆพวกเขา และพบว่าแต่ละเสียงที่มีในธรรมชาติที่มีชีวิตและแรงประหลาด

หมิ่มถอดกระดาษสมบัติออกมา และเตรียมบันทึกเสียงธรรมชาติเหล่านั้น

ครูถือภาพกราฟิกของนกที่ร้องเสียงบนต้นไม้และถามว่า:“ใครจะบอกในตัวเราว่านกนี้ชื่ออะไร?”

หมิ่มขึ้นมาตอบว่า:“มันชื่อ ‘sparrow’”

ครูยิ้มและช่วยว่า:“ดีมาก นอร์มาลี ขอให้คุณหาเสียงธรรมชาติทั้งหมดในรอบๆพวกเขาและบันทึกคำศัพท์ของมัน”

เด็กๆเริ่มหาเสียงรวมทั้งเสียงลม หเสียงกิ้งก่า หรือเสียงร้องของนก และบันทึกมันลงไว้

ครูถือบัตรที่มีภาพของหนุน และถามว่า:“นี่คืออะไร?”

ของแก้วตอบกลับว่า:“มันชื่อ ‘frog’”

ครูเปิดบัตรออกมา และแน่ใจว่านั่นคือหนุน แล้วเธอต่อต่อถามว่า:“คุณคาดว่าบัตรต่อไปนี้มีอะไรบ้าง?”

เด็กๆเริ่มเสนอคำเห็น บางคนบอกว่า “cat” บางคนบอกว่า “dog” และบางคนบอกว่า “chicken” ในที่สุดครูเปิดบัตรออกมาและพบว่ามันคือผีพริง คำศัพท์คือ “butterfly”

หลังจากการกิจกรรมจบลง ครูนำเด็กๆกลับเพื่อรีวิวคำศัพท์ที่เรียนรู้ในวันนี้ และเตือนให้เด็กๆสนใจและฟังเสียงธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และบันทึกมันด้วยภาษาอังกฤษเพื่อบันทึกเวลาที่ดีของชีวิตของพวกเขา

สำรวจเสียงธรรมชาติ

ในเช้าวันที่มีแสงแดงระเบิดโดยสวยงาม,เหลนเมิ่มและเพื่อนๆของเขาตั้งตัวเดินทางมหาสนุกเพื่อไปตรวจสอบเสียงแห่งธรรมชาติ เขาเข้าไปในสวนที่มีต้นไม้ที่มีร่มม่านและมีสวนดอกเปิดกำลังเรียกเสียงตัวอีกด้วย

เด็กๆทำการหยุดระหว่างและฟังอย่างอ่อนไหล เหลนจับได้เสียงของต้นไม้ที่เลื่อนเล่นไปมา และเขาบันทึกลงไว้ว่า: “The leaves are rustling.”

หวาย หมายและฟังเสียงของแม่น้ำใกล้เคียง และเขากล่าวว่า: “listen to the sound of the move.”

หวายแดงได้ยินเสียงร้องของหนูหนังจากไกลห่าง และเธอที่น่าตื่นเต้นตั้งตนว่า: “there may be a chicken singing.”

ครูที่เห็นว่าเด็กๆกำลังมีกิจกรรมดังกล่าว จึงถอดใบแผ่นที่มีภาพหมวกบัลรวม และถาม: “what is this? are you able to tell me the call in English?”

เหลนตอบทันที: “it is a butterfly, it is known as ‘butterfly’.”

ครูชื่นชมเหลน และบอกว่า: “splendid! Now let’s discover extra animals around us and learn their English names.”

เด็กๆจึงเริ่มหาสัตว์ต่างๆในสวนและบันทึกชื่อของพวกเขาและเสียงของพวกเขา พวกเขาหายินเสียงร้องของหนูหนัง และเสียงหมู่มาง และเสียงหลังรันของสัตว์เล็กๆ เหลนและหวายยังได้พบกับแมงโจ้นำอาหารบนหญ้า และบันทึกลงไว้ว่า: “The ants are carrying food.”

เมื่อเวลาผ่านไป พวกเด็กไม่แค่ได้เรียนรู้ชื่อสัตว์ แต่ยังได้เรียนรู้วิธีที่จะบรรยายเสียงของพวกเขา ครูกล่าวเตือนว่า: “pay attention cautiously, and you’ll find that each animal has its very own precise sound.”

ในระหว่างการตรวจสอบ พวกเด็กยังได้ตรวจสอบเสียงของลม เสียงเลื่อนของต้นไม้ และเสียงเสียงระเบิดของรถยนต์ไกลห่าง พวกเขาบันทึกเหล่านี้และพยายามบรรยายเสียงด้วยภาษาอังกฤษ

ครูนำเด็กๆมาเรียนรู้ทั้งชุดชื่อสัตว์และเสียงของพวกเขา และเตือนว่า: “don’t forget, nature is complete of remarkable sounds. maintain your ears open and you’ll discover greater each day.”

ผ่านการไปตรวจสอบเสียงแห่งธรรมชาตินี้ เด็กๆไม่แค่ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่แต่ยังเพิ่มความสนใจและความเคารพต่อธรรมชาติของพวกเขาด้วย

หาคำศัพท์ซ่อนเร้น

สุดยอดแห่งเช้าวันที่ระฟ้าฟ้าอาลงอย่างเมษายอด,เหลนเมี้ยวและเพื่อนๆของเขาได้เดินทางไปหาคำศัพท์ซ่อนอยู่ในการปฏิบัติการสนุกสนานแห่งนี้。พวกเขาติดตามความสนใจและความตื่นเต้นในหน้าใจ และมาถึงสวนสวยงามที่มีชื่อเสียงนี้。

1. ความลับในสวนที่ดอกไม้บาน

เด็กๆ พบดอกไม้ที่มีชนิดมากมายในสวน แต่ละดอกไม้ก็มีกลิ่นหอมที่น่าชื่นชม。คุณครูเอาใบกระดาษออกมาที่มีภาพของดอกไม้แดงโคกและบอกว่า “นี่คือดอกไม้อะไร?”

“นี่คือดอกไม้แดงโคก crimson rose!” เหลนเมี้ยวตอบกลับทันที

คุณครูเห็นด้วยและบอกว่า “ดีมากน่อน และขอให้คุณไปหาดอกไม้ทุกสีในสวนและเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ของมันลง”

เด็กๆ ก็หลงตาออกหาดอกไม้ และพบดอกไม้แดงโคก purple rose ดอกไม้ส้มหมาก yellow chrysanthemum และดอกไม้ม่วง pink lavender และเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ของมันลง

2. ลูกหน้าในป่า

เด็กๆ มาถึงป่า พวกเขาได้ยินเสียงร้องของนกและเห็นใบไม้หล่องลอยในลมเล็กน้อย。คุณครูเอาใบกระดาษออกมาที่มีภาพของนกและบอกว่า “นี่คืออะไร?”

“นี่คือนก bird!” หลวงหลวงตอบกลับ

คุณครูเปิดใบกระดาษออกมาและมีภาพของนก แล้วบอกว่า “คุณคาดว่าใบกระดาษต่อไปนี้จะมีอะไร?”

เด็กๆ ก็คาดคะเนกัน มีคนบอก “cat” มีคนบอก “dog” และมีคนบอก “hen” ในที่สุดคุณครูเปิดใบกระดาษออกมาและมีภาพของนกเก่าแก่ ชื่อว่า “sparrow”

3. ความค้นพบที่แว่นน้ำ

เด็กๆ มาถึงแว่นน้ำ พวกเขาเห็นปลาลายน้ำไปมาอย่างสบายงาม。คุณครูเอาใบกระดาษออกมาที่มีภาพของปลาทอง และบอกว่า “นี่คืออะไร?”

“นี่คือปลาทอง goldfish!” หลวงหลวงท้อนไว้ว่า “ดีมากน่อน”

คุณครูเห็นด้วยและบอกว่า “ดีมากน่อน และขอให้คุณไปหาสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำทุกตัวในแว่นน้ำและเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ของมันลง”

เด็กๆ ก็หาปลาทอง goldfish ปาโลมา goldfish หมงหนุน turtle และเป็ด duck และเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ของมันลง

4. สรุปและฝึกฝน

หลังจากกิจกรรมจบลง คุณครูนำเด็กๆ ฝึกฝนคำศัพท์ที่เรียนรู้วันนี้ และเตือนให้พวกเขาสังเกตสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และบันทึกช่วงเวลาที่ดีๆ ด้วยภาษาอังกฤษผ่านการปฏิบัติการการค้นหาคำศัพท์ซ่อนนี้ เด็กๆ ไม่เพียงแค่เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ แต่ยังเพิ่มความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติด้วยด้วย

แนะนำให้ตรวจสอบเนื้อหาแปลเป็นภาษาไทย เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาษาจีนย่อในนั้นและแปลดังนี้:”สนทนาเกมส์ คิดดูเอย”

ในบ่ายแห่งวันที่มีแสงอาทิตย์ระลอก เด็กๆ รวมตัวกันโดยเฉพาะ ครูเอาใบกระดาษที่แต่ละใบบนมีรูปสัตว์และเสียงของสัตว์นั้นออกมา และเกมส์เริ่มต้นขึ้น ครูแสดงใบกระดาษที่มีรูปหนุนแปง และเขียน “tweet” บนใบนั้น ครูบอกว่า “can you bet what sound this hen makes?”

หวานหลงยื่นมือตอบว่า “It says ‘tweet’.”

ครูยิ้มและเห็นด้วย แล้วก็แสดงใบกระดาษที่มีรูปกุ้งเตะว่า “แล้วเรื่องนี้เช่นไร?”

มิ่งมีอยู่ยอมรับว่า “It’s a frog. It says ‘ribbit’.”

ครูต่อต่อแสดงใบกระดาษของสัตว์อื่นๆ และเด็กๆ ยังระลึกถึงเสียงของสัตว์ต่างๆ บางคนบอก “meow” แทนแมว บางคนบอก “woof” แทนหมา แต่จากที่มีคนที่ตอบตรง ครูจึงติดใบกระดาษด้วยติดตาหนึ่งเพื่อเป็นรางวัล

เริ่มตั้งแต่เกมส์เกิดขึ้นเด็กๆ ไม่เฉพาะได้เรียนรู้ชื่อสัตว์และเสียงของเขา แต่ยังเพิ่มประสบการณ์การพูดภาษาอังกฤษด้วย ครูให้คำสั่งให้เด็กๆ ปิดตาคิดฝันว่าตนเองเป็นสัตว์นั้น แล้วก็จำลองเสียงของสัตว์นั้น เด็กๆ ตะโกนตะเกล้วและเสียงเพลิงสว่างกระจายออกมาทั่วห้องเรียน

เมื่อครูพบว่าเวลาเหมาะแล้ว ครูจึงเสนอความท้าทายใหม่ว่า “Now, i can display you a image, and also you need to guess the animal’s call and its sound.”

ครูแสดงใบกระดาษที่มีรูปม้ายัง และเขียน “roar” บนใบนั้น เด็กๆ ก็เริ่มคิดแล้วยอมรับว่า “It’s a lion. It says ‘roar’.”

ครูชื่นชมใจลูกหญิงที่ตอบตรงนี้ แล้วก็ยังทำการเล่นเกมต่อไป

ผ่านการเล่นเกมนี้ เด็กๆ ไม่เฉพาะได้เรียนรู้ชื่อสัตว์และเสียงของเขา แต่ยังเพิ่มประสบการณ์การพูดภาษาอังกฤษด้วย

หลังจากที่เกมส์จบลง ครูสรุปว่า “nowadays, we found out approximately exceptional animals and their sounds. remember, exercise makes ideal. maintain on working towards, and also you becomes the animal specialists!”

เด็กๆ ทุกคนยิ้มยอมรับ และหวังต่อการเล่นเกมภาษาอังกฤษครั้งต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *