ขณะนี้เราจะตรวจสอบประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตและการพัฒนาของเด็ก ซึ่งรวมถึงการเรียนการสอน การเล่นเกม การต่อรองและการสื่อสาร ผ่านทางนี้เราจะทรงพรากย์ในวิธีที่ช่วยให้เด็กมีความมั่นใจ พัฒนาทักษะ และสนุกสนานกับชีวิตของตนเอง การร่วมทางนี้เราจะเดินทางไปทางโลกของเด็กซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ไม่จำกัด
ต้นไม้
เด็กชายหยานอยากไปเล่นในสวนสัตว์กับพี่ชายของเขา หยางจึงเต้นเต้นและตะโกนว่า “เอ๊ะ! ขอให้พี่ชายมากับฉันไปเล่นในสวนสัตว์นะ!” หยางจึงกลับเดินไปหาพี่ชายและบอกว่า “พี่ชาย มากับฉันไปเล่นในสวนสัตว์ได้ไหม?”
พี่ชายฟังแล้วยิ้มและบอกว่า “จริงๆ หรือ? ขอให้ไปกับเราจะได้! มีสัตว์อะไรที่ฉันชอบมากที่สวนสัตว์นี้?”
หยางตอบว่า “มีหมาป่า และมีหมางร้าย และมีหมาปูนี้ ฉันชอบมาก!” พี่ชายก็ยิ้มและบอกว่า “น่ารักแน่ อย่าว่ามาก็ได้”
พี่ชายและหยางจึงกลับไปหาพ่อแม่และบอกว่า “พ่อแม่ ขอให้เราไปเล่นในสวนสัตว์นะ!” พ่อแม่ยอมและบอกว่า “ได้ ไปได้ แต่อย่าละเมิดสัตว์ ได้ใช่?”
หยางและพี่ชายตอบว่า “ได้ จะไม่ละเมิดนะ!” แล้วก็เดินไปหาทางรถและขับไปสวนสัตว์
เมื่อถึงสวนสัตว์ หยางและพี่ชายตะโกนเสียงว่า “เอ๊ะ! มีสัตว์ที่น่าสนใจมาก!” พวกเขาเดินไปดูหมาป่าที่ของหลังเล็กๆ และหยางบอกว่า “น่าสนใจมาก! มันเลี้ยงลูกเลย!”
พี่ชายก็ยกมือขวานให้หยางเห็นว่า “มีหมางร้ายนั่นอยู่นี่” หยางก็ยิ้มและบอกว่า “มันเป็นสัตว์น่ารัก!” พวกเขาก็เดินไปดูหมาปูนี่ที่เล่นกับเพื่อนของมัน
หลังจากนั้น หยางและพี่ชายก็เดินไปดูหน้าใหญ่ของสวนสัตว์และหยางบอกว่า “เอ๊ะ! มีหน้าใหญ่น่าสนใจ!” พี่ชายก็ยกมือขวานให้หยางเห็นว่า “นี่คือหน้าใหญ่ของสวนสัตว์!”
หยางและพี่ชายก็เดินไปตามทางเดินทาง และหยางบอกว่า “เอ๊ะ! มีอะไรน่าสนใจข้างทางนี้!”
แม่น้ำ
ในจุดใต้หญ้าที่เขียวสีน้ำตาล แม่น้ำไหลอย่างเงียบๆ มันกว้างและชัดเจน น้ำที่เขียวเข้มปลายวานเตลเตล และเล่นตลอดเวลา ทางฝั่งของแม่น้ำเต็มไปด้วยชีวิต; ร่างกายหลายตัวบินร้องอยู่บนต้นไม้ และปลาวานขึ้นมาจากน้ำด้วยเร็วทันที แม่น้ำนี้เป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตมากมาย และมีความยินดีต่อทุกคนที่มาเยี่ยมชมมัน
ในช่วงเช้า แสงอาทิตย์ที่แสงบางของแม่น้ำทำให้น้ำมีความสวยงามเหมือนกับกล่องข้าว ปลาวานขึ้นมายังพื้นน้ำเพื่อจับแสงอาทิตย์ เด็กเดินเข้ามาเล่นตามแม่น้ำ ทำด่านด้วยไม้และหิน และดูน้ำไหลผ่านเมืองของพวกเขา
ในช่วงวัน แม่น้ำเป็นที่ทำงาน ชาวนานำเรือของพวกเขามาที่แม่น้ำเพื่อรดน้ำให้กับพื้นที่เกษตรของพวกเขา และชาวประมงยกเคืองของพวกเขาเพื่อจับปลามาทำอาหาร
ในช่วงเย็น แม่น้ำเป็นที่สงบสุข แสงอาทิตย์ตกและท้องฟ้ามีสีส้มสลับเหลือง ส่วนที่สะท้อนของแม่น้ำบนน้ำดูเหมือนภาพเขียน และมันเป็นที่ที่แห่งช่วงเวลาที่เงียบๆ ยกเว้นเสียงเสียงน้ำไหลที่เงียบๆ เด็กเล่นเครื่องเล่นตามแม่น้ำ ตะยานและปลูกตะยาน และรู้สึกสนุกสนานด้วยลมเย็น
แม่น้ำนี้เป็นที่แห่งเรื่องเรื่องเศร้าเรื่องร้อย ที่เดือดร้อนในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต มันเป็นที่แห่งความน่าประทับใจ ที่ที่ฝันของเราเริ่มขึ้นและความทรงจำของเราถูกสร้างขึ้น แม่น้ำนี้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และยอดรักของทุกคนที่รู้จักมัน
ภูเขา
บนดาวสีฟ้าที่ห่างไกลนี้ มีเนินเขาหนึ่งที่ยิ่งใหญ่อยู่ในมุมโลก มันยืนยงอย่างเงียบๆ ในมุมโลก มีชื่อว่า “Mount Evergreen” หมายความว่า เนินเขาที่มีเขียวสืบต่อไปได้ตลอดกาล ต่อไปนี้คือคำอธิบายเกี่ยวกับเนินเขานี้ที่ลึกลับ:
-
ป่าที่ฝายของเนินเขา: ที่ฝายของ Mount Evergreen มีป่าที่มีต้นไม้ยาวและหนา แสงแดดรั่วผ่านกิ่งไม้ทำให้เกิดร่วงแสงและร่วงเงา ที่นี่มีสัตว์เลี้ยงลูกของหลากหลายทั้งหมด เช่น หมูหลาง หนูสัตว์ และสัตว์ปีก
-
ทางเดินทางยาวยิ่ง: เพื่อขึ้นยอดเนินเขา Mount Evergreen ต้องผ่านทางเดินทางที่เลื่อนเล่อน ทางด้านข้างเต็มไปด้วยดอกไม้ป่า ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
three. พื้นที่ชมวิว: บนยอดเนินเขา มีพื้นที่ชมวิว จากที่นี่สามารถมองเห็นวงแวดล้อมทั่วไปได้ ในวันที่ชัดเจน สามารถมองเห็นเมืองและเนินเขาที่ห่างไกลได้
four. ลำห้วยในเขา: ในขณะที่เดินทางขึ้นเนินเขา จะผ่านลำห้วยหลายสาย น้ำในลำห้วยชัดเจนเห็นได้ชัด และดอกไม้บริเวณน้ำมีกลิ่นหอมนุ่มนวล
five. หน้าแดนน้ำหลากที่ยอดเนิน: เมื่อมาถึงยอดเนินเขา จะเห็นหน้าแดนน้ำหลากงาวงงวาง น้ำกระตุ้นจากยอดเขาตกลงมา น้ำฝนที่สลับตกทำให้น้ำหลากสวยงามขึ้นในแสงแดด
-
ดวงดาวในคืนที่ยอดเนิน: เมื่อมืดลงมา ดวงดาวที่ยอดเนินของ Mount Evergreen จะมีแสงสว่างมาก ที่นี่สามารถหาดวงดาวหรือดาวเห็นดาวเหนือได้ และรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวาล
-
ตำนานของเนินเขา: มีตำนานเกี่ยวกับ Mount Evergreen ที่เก่าแก่ว่า มีแม่แม่นางหนึ่งอาศัยอยู่บนเนินเขานี้ และปกป้องพื้นที่นี้
เนินเขานี้ไม่เพียงแค่ที่มีภาพวาดธรรมชาติ แต่ยังเป็นที่ที่มีความลึกลับอีกด้วย ทุกปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเข้ามาสำรวจ และหาเรื่องราวของการประสบประท้งของตัวเองของพวกเขา
ชายหาด
-
ทะเลสาบสีทอง: ทะเลสาบที่เผาะด้วยทานาวลายที่ละเอียดอ่อน สีทองปะปนด้วยแสงอาทิตย์ ทำให้มีปรากฎระเบียงทองเหลือง บรรยายความสนุกสนานของทะเลสาบให้กับเด็กๆ ที่รักการวิ่งเร่งและเล่นเล่น
-
ทะเลที่มีแสงวาบวาบ: ในบริเวณทะเลสาบ ทะเลลมเล็กเล็กตะโกนตะโกนตรงชายฝั่ง ทำให้เสียงเสียงทะเลสวนเป็นส่วนหนึ่งของภาพที่ดูดึงดูดความสนใจ ทะเลวาบวาบตรงข้างที่เห็นได้และนกแก้วบินร่อนตลอดทะเล
-
หอยนมที่พบที่ชายฝั่ง: ที่ทะเลสาบสามารถพบหอยนมที่แตกต่างกันมากมาย มีสีขาว สีชมพู และสีม่วง เด็กๆ ชอบเก็บมันขึ้นมา ดูรูปร่างและสีของมัน
four. รอยเท้าที่ทะเลสาบ: เมื่อเด็กๆ เล่นบนทะเลสาบ รอยเท้าของพวกเขาจะมีลึกลงในทานาวลาย ขณะที่ทะเลลมมาลบรอยเท้านั้นออกไปเรื่อยๆ แต่ความยินดีและความหลงหละของพวกเขาจะยังคงอยู่ในหัวใจตลอดกาล
-
ต้นไม้ที่ชายฝั่งทะเล: ในชายฝั่งทะเล ยังมีต้นไม้บางต้น ร่มรอยเพลิงเพลินเมื่อลมเหนือเข้ามา ทำให้ทะเลสาบมีความเย็นเล็บน้อยกว่า
-
ร่มหลังคาเงาบนทะเลสาบ: เพื่อป้องกันแสงแดด ทะเลสาบมักจะมีร่มหลังคาเงาบนบริเวณนั้น เด็กๆ สามารถพักผ่อน เล่นเล่น หรือสนุกกับครอบครัวใต้ร่มนี้
-
อุปกรณ์เล่นบนทะเลสาบ: บางทะเลสาบจะมีอุปกรณ์เล่นเช่นเซิร์ฟ์ลิ้น น๊อกโก้ เป็นต้น ให้เด็กๆ สามารถเล่นได้
-
การทำแกงบนทะเลสาบ: บนทะเลสาบ ครอบครัวสามารถทำแกงร่วมกัน รวมถึงปลาทะเลและขนมทรงหลากหลาย
nine. ทะเลสาบในตอนสายแดดตก: เมื่อดวงอาทิตย์ลดลง ภาพทะเลสาบจะดูยิ่งมากขึ้น เด็กๆ ชอบมาดูสายแดดตกที่ทะเลสาบนี้ และรู้สึกกับสวรรค์สามัญของธรรมชาติ
- ความทรงจำที่ทะเลสาบ: ระหว่างที่อยู่ที่ทะเลสาบ ระหว่างที่รักฤดีและประสบประทาน ทุกช่วงที่เด็กๆ รักฤดีและนำทางเล่นทุกครั้งนั้นก็กลายเป็นความทรงจำที่บรรยายกับความทรงจำที่น่ารักของพวกเขา
Sky -> ท้องฟ้า
ฝั่งฟ้าสีฟ้า ก้อนเมฆบางอย่างนั้นขึ้นมาลอยลงมาเหมือนหยอดเครื่องหวานเยือก ฟ้ามีขนาดกว้างง่ายๆ จะรู้สึกเหมือนจะพอเข้าถึงทางไกลอ่อนไหวต่าง ๆ แสงแดดรั่วผ่านชั้นเมฆมาที่พื้นดิน และน่ารู้สึกอันร้อนและแสวงสวย
ปลายที่ฝั่งฟ้า รั้วและรั้ว หนูนกได้บินเป็นเสรีในฟ้า หางของหนูนกเข้าในแสงแดงของดวงอาทิตย์ที่ตายาว มีเสียงร้องกลางเพลิงดังเหมือนจะระดมร้อยละดาวสวรรค์ให้เห็นความอันยร่องยอดของฟ้า
ดวงอาทิตย์ในฟ้า จากแสงอ่อนๆในช่วงเช้า ไปจนถึงแสงระลอกของช่วงกลางวัน และจนถึงแสงทองของช่วงเย็น ทุกวันจะเปลี่ยนแปลงลายเปลี่ยนสีของตัวเอง เด็กๆชอบให้ตัวเองหากลับที่วันที่วันเปลี่ยนเปลี่ยนในฟ้า เริ่มหากลับดวงอาทิตย์เป็นรูปและสี และสนทนากันอันเจ็บปวด
เมื่อคืนจะมาลงมา ฟ้ามีความลึกลับยิ่งมากยิ่งขึ้น ดาวในแก้วที่หายตัวออกมาเหมือนที่มีเครื่องไฟเล็กแฟ็คคี่ ที่ประกาศการมาของคืนมืด ดวงจันทร์ขึ้นมาช้าๆ แสงของมันอ่อนๆและร้อนๆ ที่ส่องแสงขึ้นบนพื้นดินเป็นชั้นสีเงาขาวที่น่าจับตามอง
เด็กๆนอนหลับบนหญ้า โหงดวงที่ว่างของฟ้า ตาของพวกเขาอาจะบางกว่าน้อย แต่ใจความอันคิดและยอดหวังของพวกเขาแต่ละคนเป็นอันยร่องยอด พวกเขาจินตนาการอยู่ว่าตนเองจะเดินทางในระหว่างดาวดวง ค้นคว้าโลกที่ไม่เคยรู้จักก่อน
ฟ้าไม่เพียงแต่เป็นที่ที่เด็กๆคิดแฝงและหวานทอด มันยังเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติด้วย มันนำความฝันของเรามา และเป็นพยานของการเติบโตของเราด้วย ในโลกที่กว้างง่ายๆนี้ ผู้ใดก็มีเรื่องราวของตัวเองเดียวของตนเอง
Cloudความเมฆ
ฝั่งท้องฟ้ากว้างขวาง ลูกเมฆอาจเหมือนขนไข่ขาวที่ลอยอย่างเงียบๆ บางอย่างดูเหมือนขนเยื่อมของอาหารชาติแดง ที่อ่อนๆ และหนาหน่อย; บางอย่างดูเหมือนแกะลูกหลายตัวที่รวมตัวกันอย่างอ่อนๆ; บางอย่างดูเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกขนาดเล็กที่เล่นตลกกัน。ลูกเมฆในท้องฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ยืนยัน บางครั้งรวมกันเป็นชั้นเมฆหนาหน่อย; บางครั้งแยกออกจากกันและระเบิดระเบียงดูเหมือนเพลิงไฟที่รุนแรง; บางครั้งที่ระลอกออกมาเปิดเผยท้องฟ้าที่มีสีฟ้าสดใส และทันทีทันใดก็อาจกลับมาเข้ากันอีกครั้ง
แสงแดดที่เหนือผ่านชั้นเมฆเหล่านั้น ส่องสว่างลงบนพื้นดิน และทำให้พื้นดินเหมือนมีผ้าทองเหลืองเข้มงวด ในระหว่างที่ลูกเมฆในแสงแดงดูเหมือนมีสีที่ละเอียดและงามงามยิ่งขึ้น พวกมันลอยอย่างสร้างสรรค์ในท้องฟ้า บางครั้งขึ้นบนบางครั้งลงหลังบนบางครั้งรวมกันบางครั้งแยกออกจากกัน ดูเหมือนที่กำลังเล่นการเต้นที่มีความฝันเหมือนจริง
บางครั้งลูกเมฆจะเปลี่ยนแปลงเป็นรูปสัตว์ อาจเป็นสุนัขลามหางตัวเอง หรือแม้กระทั่งแมวเล่นตลก เด็กๆ ที่เห็นลูกเมฆที่มีรูปที่มีความหลากหลายนี้ จะมีความยินดีและปลุกปั่นโดยอยากจะฝันเกี่ยวกับเรื่องราวที่เมฆตามใน
การเปลี่ยนแปลงของลูกเมฆมีส่วนร่วมกับการเวียนวางของเวลาด้วย ในช่วงเช้า ลูกเมฆในท้องฟ้าบางและดูเหมือนผ้าไฟใส อย่างมีความอ่อนๆ ในช่วงบ่าย ลูกเมฆมากขึ้นบางครั้งเข้าหน้าแสงแดงบางครั้ง ทำให้ท้องฟ้าเหมือนมีความเย็นลง และในช่วงเย็น ลูกเมฆหนาขึ้นเหมือนที่กำลังเตรียมตัวสำหรับการมาถึงของมื้นคืน
ลูกเมฆในท้องฟ้าเป็นของที่ธรรมชาติทรัพยากรให้เรา มันทำให้เราได้พบภาพวาดที่แตกต่างกันในชีวิตประจำวันของเรา และรู้สึกถึงความอัศจรรย์และความงามของธรรมชาติ
ฝ่ายฝีมือที่ต้องตรวจสอบความแน่ใจว่าความแปลตามภาษาไทยไม่มีจุดข้อความของภาษาจีนในตัวเลข
มันเป็นเช้าวันที่มีแดดออกและเปิดใหญ่ ลูกชายเจ็กยืนอยู่หน้าหน้าต่าง มองไปที่ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า “สวัสดีครับ ดวงอาทิตย์! คุณมีแสงและความร้อนที่สวยงาม” เจ็กบอกต่อดวงอาทิตย์ ซึ่งเขาอยากจะรู้สึกเหมือนนกที่ได้เที่ยวบินเสรีในท้องฟ้า
“ดูกับก้อนเมฆ มันเหมือนของหวานที่อ่อนหอม” เจ็กบอกต่อ ๆ ไป โดยสังเกตเห็นว่าก้อนเมฆเลี้ยวงในท้องฟ้าที่สวยงาม มีรูปร่างที่หลากหลาย บางตัวเหมือนแมว บางตัวเหมือนหมี
ขณะที่ดวงอาทิตย์ขึ้นสูงขึ้น โลกด้านล่างเริ่มเปลี่ยนแปลง “ต้นไม้ในสวนเรียบร้อยแล้วในแสงแดด” ใบไม้ของต้นไม้เหล่านั้นเริ่มเปิดใหญ่และมีสีเขียวที่เลิศเลิศ “ต้นไม้กำลังเต้นกับลม” เจ็กบอกกล่าว
เขาดูดวงอาทิตย์เริ่มตก ทำให้มีเงายาวลอยลงบนพื้นดิน ท้องฟ้าเปลี่ยนสีจากสีฟ้าเป็นสีชมพู แล้วเป็นสีแก้วทอง “แล้วนั้น ดวงอาทิตย์ ขอให้คุณหลับอย่างดี” เจ็กบอกต่อดวงอาทิตย์ที่กำลังตกลง
ขณะที่ดวงอาทิตย์หายไปใต้ภาชนะฟ้า โลกถูกทิ้งให้มีแสงอ่อนของดวงจันทร์ ดวงดาวเริ่มเติบโตในท้องฟ้ามืด และเจ็กรู้ว่า คืนที่สวยงามอีกครั้งได้เริ่มขึ้นแล้ว
ขาวดาว
คืนวานที่ตกเป็นมืด ดวงจันทร์เริ่มขึ้นจากด้านทิศทางของฟ้าโดยเร็วเร็ว นั่นเป็นดวงจันทร์ที่เป็นทรงกลม แสงของมันสว่างเหมือนของแท้จริง โดยเหมือนดวงดินักที่ติดอยู่ในมืดอันหนาแน่นของจักรวาล。แสงของดวงจันทร์อ่อนแอและอุ่นอาจมองเห็นในที่สงบและลึกลับของโลกคืน
รูปร่างของดวงจันทร์จะเปลี่ยนแปลงตามเวลา จากของปฏิมากรรมบนวันที่เริ่มขึ้นของเดือนถึงของเดือนที่เต็มสว่าง และเมื่อเดือนจบจะมีของหลั่ง แต่ละของมีความเรียบง่ายและความฝันสวยงามที่น่าติดตามตลอดเวลา เด็กๆก็มักจะถูกดวงจันทร์ที่งดงามดังกล่าวดึงดูด พวกเขาจะวิ่งตามลักษณะของร่างเขาในแสงดวงจันทร์ หรือบอกเรื่องราวที่เกี่ยวกับดวงจันทร์ที่น่าฝัน
ดวงจันทร์ไม่เพียงแต่งงานแต่ยังมีหลายเทศนาและเรื่องเล่าประเพณี ในประเทศจีน ดวงจันทร์มักถูกเชื่อมโยงกับเรื่องของเจ้าหญิงเฮ่อเลย์ที่หลบหนีออกจากมิติที่โลกดิน เพื่อหนีไปยังประทานาทิศ ในฝรั่งเศส ดวงจันทร์ถูกเชื่อมโยงกับสัตว์ประหลาดเช่นแร้งชาวนรและปูชาวคดา และกลายเป็นบริเวณที่มีอิสระในเรื่องราวสะเทือนความรู้สึกของทางดิด
แสงของดวงจันทร์ที่อ่อนแอแต่สามารถสว่างให้แก่มืดและให้ความหวางและความกล้าต่อประชาชน ในคืนค่ำ ดวงจันทร์เป็นพร้อมดวงของเด็กๆ มันเป็นคนร่วมความฝันและคนร่วมเวลาในคืนค่ำที่สงบอันเป็นส่วนสำคัญของความทรงจำเด็กๆของพวกเขา
Star -> ดาว
คืนนี้ในท้องฟ้า ดาวดวงดวงเทาะไปด้วยแสงที่มีอาภรณ์และลึกลับ พวกมันเหมือนแก้วทองคำในท้องฟ้า ที่ประกายในความมืดไปอย่างไม่จำกัด。จินตนาการว่าหากเราสามารถขึ้นเรืออวกาศและสำรวจดาวดวงที่ห่างไกลนั้น จะเป็นระยะทางที่น่าสนุกอย่างมากเพียงไร。
ดาวดวงบางดวงระวังอย่างแข็งแกร่งเหมือนขนาดเทาะ เหมือนแก้วเพลิงบอล และบางดวงอาจอ่อนแอเหมือนดาวเด่นและดวงเด่นเล็กๆ พวกมันมีลำดับอยู่ในดาวเคราะห์แตกต่าง ๆ และจัดตั้งเป็นรูปแบบที่งดงามอย่างที่ไม่แน่ใจที่นั้น
ในภาษาอังกฤษ เราสามารถบอกเล่าดาวดวงโดยแสดงด้วยภาษานี้:
- “มองเห็นได้ว่าดาวดวงนั้นตางเป็นดวงที่วางแสงมาก”
- “ดาวดวงนี้ระวังเหมือนแก้วเพลิงบอล”
- “มีดาวดวงมากมายในท้องฟ้า”
ดาวดวงไม่แค่งดูงดงามเท่านั้น แต่ยังมีความลึกลับที่มีอยู่มากมายด้วย นักวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบดาวดวงเพื่อเข้าใจความลึกลับของจักรวาล เช่นอายุของดาวดวง น้ำหนักของดาวดวง และระยะทางของดาวดวง เราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับดาวดวงด้วยภาษาอังกฤษเช่นนี้:
- “ดาวดวงทำด้วยก๊าซและฝุ่น”
- “ดาวเคราะห์ในระบบดาวเคราะห์ของเราเช่นดาวอาล์ฟา ก็เป็นดาวดวง แต่มันอยู่ใกล้เรามากกว่า”
- “ดาวดวงบางดวงอยู่ห่างมากจนเราไม่สามารถมองเห็นมันด้วยตาเปล่า”
เรื่องราวของดาวดวงมักจะมีนวนซึ่งทำให้น่าจินตนาการและทรงพลัง เนื่องจากดาวดวงเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ทุกคนก็สามารถหาพลังและแรงบันดาลใจในเรื่องราวของดาวดวงได้เสมอ
เกาะดินรั้ว
เมื่อมีทางฉันจะให้คุณส่วนแบ่งของภาษาไทยเด็ดขาดสำหรับเนื้อหาที่คุณให้ แต่ที่นี่คุณเกี่ยวข้องกับความยาวของเนื้อหา ฉันจะทำการแปลเนื้อหาทั้งหมดเพื่อให้คุณง่ายต่อตัวเอง
ในบ่ายที่ชายแสงอย่างเปลี่ยนแปลง เด็กชายเอมี่ และเพื่อนๆ ของเขา หมาแมวมิมี่ ได้กลับมาเล่นในสวนสาธารณะ พวกเขาพบกับชานเขตยาวโดยสายที่เตือนใจด้วยการปลูกโคลนสีสันที่เปลี่ยนแปลงเป็นระหว่างที่มีลมเหนือโคมออกมา
เอมี่กล่าวว่า: “มิมี่ ดูเธอเห็นชานเขตนี้หรือไม่? มันปกคลุมโดยพืชดอกและสัตว์เลี้ยงด้วยตัวเองในสวนสาธารณะ และมันก็ไม่ให้พวกเขาหลบหนีมาไป”
มิมี่ตัวตลอดดูดุดโดยสงสัยว่า: “แล้วชานเขตนี้ทำด้วยวัสดุอะไรมา?”
เอมี่คิดแล้วตอบว่า: “ชานเขตนี้ทำด้วยไม้ และยังทาสีสีสันด้วย ดูแน่นหนาและงดงาม”
พวกเขาเดินไปตามชานเขต แล้วเอมี่จับมือบอกว่า: “มิมี่ ดูรูปแบบนี้ได้หรือไม่? มันคล้ายดาวดวงเดียวไหม?”
มิมี่ยิ้มและตอบว่า: “ใช่ มันคล้ายดาวดวงเดียว” และกล่าวต่อว่า “ดาวดวงในชานเขตนี้คงติดตามโลกของเราเช่นกัน และมันบอกให้เราทราบว่าต้องรักษาสวรรค์ของเรา”
พวกเขาเดินต่อไปจนได้พบกับทางที่สิ้นสุดของชานเขต และพบกระโจมเล็ก ด้านบนกระโจมมีแผ่นบอกข้อความว่า “กรุณารักษาความโง่แก้ว ไม่ให้เสียงดังทำให้เสียงทุกชีวิตของสัตว์”
เอมี่และมิมี่หยุดบนทางแล้ว เอมี่กล่าวว่า: “เราต้องทำตามกฎระเบียบ ไม่ให้ทำรอคอยสัตว์เลี้ยงในชานเขตนี้ เพื่อให้พวกเขาได้เล่นอย่างสบายใจ”
มิมี่เห็นด้วยและหยุดอยู่ด้วย เอมี่พามิมี่เข้าไปด้วยทาง และพวกเขาได้มาถึงสวรรค์ของสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตอยู่เต็มไปด้วยสวรรค์ พวกเขาเห็นสัตว์หลายชนิดเช่น หนูสีน้ำตาลที่เดินบนเส้นทางที่สบายใจ หนูน้อยที่กระโจมขึ้นมาลงหลายครั้ง และหนูฟันยาวที่หยุดพักอยู่ภายใต้เงาของต้นไม้
เอมี่ตื่นตะลึงว่า: “มิมี่ ที่นี่มีสวยเป็นอย่างไร! มีสัตว์หลายชนิดที่น่ารัก”
มิมี่กล่าวว่า: “ใช่ พวกเราต้องเก็บรักษาพื้นที่ทุกส่วนของที่นี้ ปกป้องสัตว์เหล่านี้ และให้พวกเขามีชีวิตอยู่ในสวรรค์ของเรา”
พวกเขาเดินไปต่อและสนุกสนานกับธรรมชาติดูแล จนถึงตอนท้ายพวกเขากลับมาถึงจุดที่เริ่มต้นของชานเขต เอมี่ทำการกลับมามองด้วยท่ามือออกไป กล่าวว่า: “มิมี่ ชานเขตนี้คล้ายเป็นหนึ่งสายทางที่งดงาม มันปกป้องชีวิตในสวนสาธารณะ และทำให้เราเรียนรู้ว่าต้องช่วยเหลือและปกป้องธรรมชาติ”
มิมี่เห็นด้วยและทำการยอมรับแล้ว เอมี่พามิมี่เดินกลับไปยังจุดต่าง ๆ มิมี่กล่าวว่า: “เอมี่ พวกเราต้องมาที่นี่บ่อยๆ และเป็นเพื่อนกับสัตว์เหล่านี้ ร่วมกันปกป้องมหาภาคของเรา”
เอมี่ยิ้มและตอบว่า: “ใช่ มิมี่ พวกเราจะทำได้”
ต้นไม้** – คำศัพท์ “Tree”
- นี่คือต้นไม้! มันสูงและแข็งแรงมาก.
- ต้นไม้มีใบและกิ่งขนานหลากหลาย.
- ต้นไม้ใช้แสงแดดและน้ำฝนเพื่อเติบโต.
- ต้นไม้มีหลายชนิด บางชนิดดอกและผล.five. ต้นไม้มีความสำคัญในการรักษาน้ำและป้องกันเหล็ก.
- ต้นไม้เป็นที่รองรับสัตว์และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี.
- คุณชอบต้นไม้ไหนที่สุด? มีมันมากมาย!eight. ทำไม่ได้หาต้นไม้ที่มีสีสวย? มันสวยมาก!nine. ต้นไม้มีหลายชนิดที่มีกลิ่นหอมหลากหลาย!
- ต้นไม้เป็นที่พักอาศัยของหลายสปีชีส์ของสัตว์.
แม่น้ำ** – หาคำศัพท์ “แม่น้ำ”
แม่น้ำ – หาคำศัพท์ “River”
ภาพแม่น้ำเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จักอย่างดี มันเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่ข้างเคียงกับชายแดนหรือในเมืองใหญ่ของเรา. มันเป็นทางที่น้ำไหลเข้าและไหลออกจากทะเล และมันยังเป็นที่อยู่อาศัยของหลายสัตว์น้ำ. นี่คือเรื่องเล่าของแม่น้ำ:
“แม่น้ำเรียกว่าแม่น้ำสายลำ มันเป็นแม่น้ำแรกที่มีน้ำดินแข้งขึ้นเป็นหิมะ แล้วก็ละลายลงมาเป็นน้ำในแม่น้ำ. มันไหลเหนือภูเขาและผ่านชายแดนหลายแห่ง จนมาถึงทะเล. ทุกครั้งเมื่อมีทางเดินทางที่ยาวน แม่น้ำจะเป็นทางที่ทำให้เราหลุดหลีกเหล่ายิ่ง.”
เมื่อเด็กเห็นภาพแม่น้ำ พวกเขาจะทำอะไร? พวกเขาอาจจะพิจารณ์เกี่ยวกับน้ำที่ไหล, สัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำ, และทางที่แม่น้ำไหลไป. พวกเขาอาจจะสามารถหาคำศัพท์ “river” ซึ่งหมายถึง “แม่น้ำ” ของเรา.
ภาพภูเขา** – หาคำศัพท์ “ภูเขา”
ในภาคแห่งโลกที่กว้างวาง มีภูเขาหนึ่งที่ยาวนานและสูงงดงาม มันปรากฏเหมือนหลักคานในสวรรค์ มีความงามที่น่าประหลาดและลึกลับ
ภูเขาล้อมรอบด้วยยอดเขาที่ลุกลาดและมีมากมาย จากที่เห็นจากทางห่างไกล มันเหมือนภาพเขียนใหญ่ๆ ที่เผยแพร่กายในตาเรา. ที่ฝายของภูเขามีต้นไม้ที่มีชีวิตชีวาและมีสีเขียวมากมาย และก็มีสีสันที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล แสดงถึงความเรียบเรียงของธรรมชาติ
ในภูเขานี้ มีสัตว์ที่มากหลากหลายอาศัยอยู่. บางสัตว์ซ่อนตัวในเขตป่าสูง บางสัตว์วิ่งตลอดเนินทางเล็ก ๆ ในทางรอบภูเขา ตั้งแต่นั่นไปจนกระทั่งทำให้เกิดภาพที่มีชีวิตชีวามากมาย. บางสัตว์ที่อ่อนโยน พวกมันเดินเดินได้รวยระยะในภูเขาและใช้ประโยชน์จากการอนุญาตของธรรมชาติ; บางสัตว์ที่กล้าหาญ พวกมันขึ้นภูเขาที่สูงส่วนต่าง ๆ และท้าทายตัวเองในเวทีที่เข้มงวด
บนยอดภูเขา ก้อนเมฆหลอดลอย ดูเหมือนวงศ์ประยุลในโลกมนุษย์. แสงแดดที่แสดงผ่านก้อนเมฆเข้ามา กระบับตาออกแสงงามบนหินที่อยู่บนยอดภูเขา. ลมขึ้นฝั่ง หายใจใสส์ลมหมุนไปโดยนักเดินทาง ให้กับการรับรู้สึกความเย็นและสบาย
ภูเขานี้ไม่เพียงแค่งงามแต่ยังมีความท้าทายด้วย หลายนักปีนเขากล้าหาญมาท้าทายตัวเองเพื่อที่จะขึ้นภูเขา. พวกเขาเดินบนเส้นทางที่ยาวและลาดลงทุกก้าวที่ยึดยอด แต่เมื่อพวกเขาตั้งอยู่บนยอดและมองลงมาที่ภาพที่อยู่ใต้รองเท้าของพวกเขา ทุกต่อทุกสิ่งที่มีความยากลำบากของพวกเขาก็จะกลายเป็นมูลค่า
ในภูเขานี้ ทุกคนสามารถหาฝันของตัวเองได้. ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางการค้นคว้า การถ่ายภาพ หรือการเดินป่าเทศ นี่เป็นที่ที่น่าใจ ภาพที่งามและสงบสุขของภูเขาที่นี้ทำให้เราเข้าใจว่าเราอยู่ในโลกอื่น ๆ
ภาพชายฝั่ง** – หาคำศัพท์ “Beach”
วันที่มีแสงแดดระลอกเปิดและทะเลสาบสวยงามนี้มาถึงชายหาดที่ดินแดนของเรา ที่มีชายหาดกว้างใหญ่ ทางแหล่งของทรายอ่อนแอและคลื่นทะเลเล็กน้อยเบาๆ ที่เลี้ยงเลี้ยงชายฝั่งอย่างอ่อนๆ หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม หมิ่ม
ภาพท้องฟ้า – คำศัพท์ “Sky”
ใต้ฟ้าสูงโล่งและสว่างสีฟ้านั้นมีหลากหลาย จากสีน้ำเงินของช่วงเช้า ไปสีส้มเขียวของช่วงกลางวัน และสีน้ำตาลของช่วงตะกลับ แต่ละสีที่เห็นในฟ้าทำให้คนรู้สึกสงบเสริมขึ้น ในฟ้า พวกเราสามารถมองเห็นก้อนเมฆที่ลอยอย่างอิสระ มันเหมือนกับขนมกาแฟอ่อนๆ บางครั้ง หรือมันเหมือนม้าวิ่ง หรือปลางว่ายอย่างบางครั้ง
ในฟ้า ดวงอาทิตย์นั้นที่สว่างมาก มันสว่างแห่งโลก และนำความร้อนและแสงออกมาให้แก่มนุษย์ ในขณะที่ดวงจันทร์เป็นดาวดวงในคืน มันมองลงมาอย่างสง่าง่าย ทำให้มีความสงบและความสว่างในใจ
ในวันที่มีฝันใสสว่าง ฟ้าเป็นสีสว่างเหมือนที่ถูกทำสะอาด ทำให้คนรู้สึกยินดี และในวันที่มีฝนหรือเมฆมาก ฟ้าจะดูมืดเล็กน้อย แต่ไม่ว่าเป็นวันใสสว่างหรือวันมืด ฟ้ายังเป็นสวยงามและทำให้เราติดตายวานในทุกวัน
เราจะร่วมกันรับประทานฟ้าสีสว่างนี้ และรู้สึกถึงความอันวางใจของธรรมชาติ และสนุกสนานกับชีวิตที่ดีและงดงาม
ภาพกลุ่มก้อนเมฃ ** – หาคำศัพท์ “Cloud”
ฝั่งกลุ่มเมฆที่ลอยอย่างอ่อนนุ่มบนท้องฟ้าพวกเขาดูเหมือนเป็นขนของหงอนขาว อ่อนแอและบาง ๆ โดยเด็กๆ สามารถจินตนาการเห็นรูปร่างของเมฆเหล่านี้ต่างๆ เช่น สัตว์ที่น่ารัก อาคารที่มีบรรยากาศน่าสนุก หรือ ปราสาทแห่งความฝัน นั่นเอง ล่องรั่วมาพร้อมกันที่จะหารูปร่างของเมฆเหล่านี้ และอธิบายเข้าไปด้วยภาษาอังกฤษด้วย
- Fluffy white cloud – กลุ่มเมฆขาวอ่อนแอ หลุดออกมาเหมือนตัวชิ้นเชื้อของหงอน อ่อนแอและนุ่มนวล
- Elephant cloud – กลุ่มเมฆที่ดูเหมือนช้าง ที่มีหอบฝรั่งและหางที่ยาว น่ารักที่สุด
- deliver cloud – กลุ่มเมฆที่ดูเหมือนเรือ ใบเรือลอยอยู่บนท้องฟ้า เด็กๆ สามารถจินตนาการเห็นว่าพวกเขากำลังเดินทางทางทะเล
- house cloud – กลุ่มเมฆที่ดูเหมือนบ้าน ที่มีหน้าต่าง ประตูและบานประหารที่เห็นได้ชัดเจน เหมือนกับบ้านเล็กๆ
- Animal cloud – กลุ่มเมฆที่ดูเหมือนสัตว์ ที่สามารถเป็นแมว หมา นก หรือแม้แต่ดินโอสอร์ ให้เด็กๆ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา
ด้วยการเล่นเกมเช่นนี้ เด็กๆ ไม่เพียงแค่เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่ยังเล่นต้นความรู้สึกการสังเกตและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาด้วย ในขณะที่เด็กๆ ดูเห็นรูปร่างของเมฆที่ต่างๆ ในท้องฟ้า เขาสามารถอธิบายเข้าไปด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่เพียงเพิ่มความเข้าใจคำศัพท์ของพวกเขา แต่ยังและกลายเป็นการฝึกความสามารถในการแสดงที่ภาษาอังกฤษของพวกเขาด้วย
ภาพดวงอาทิตย์ – หาคำศัพท์ “Sun”
ฝั่งทะเลสีฟ้า ดวงอาทิตย์ลอยออกมาช้าๆ และร่องรับความร้อนจากเนื้อแผ่นดินขึ้น ให้พลังงานและชีวิตต่อสิ่งมีชีวิตทุกสิ่ง ดวงเปลวไฟใหญ่นี้ที่เรียกว่า “sun” เป็นแหล่งที่สำคัญของชีวิตบนโลก
ดวงอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออกและเดินทางผ่านทางฟ้าจนถึงตะวันตก เราได้ประสบกับวันและคืนในระหว่างการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ แสงและความร้อนของดวงอาทิตย์เป็นพื้นฐานสำหรับชีวิตทุกสิ่งบนโลก
เด็กๆ คุณรู้ว่าดวงอาทิตย์มีชื่ออื่นอีกหรือไม่? ในภาษาอังกฤษ เราเรียกมันว่า “solar” แสงของดวงอาทิตย์แสนวาบและร้อนเท่าใดก็ตาม มันทำให้โลกของเราแสงและรู้สึกยังหลังลึก
ขอให้เราพร้อมกันและดูดวงอาทิตย์ในแต่ละช่วงของวันนี้:
- Morning sun: ดวงอาทิตย์ของเช้าขึ้นออกมาอย่างอ่อนๆ และทอดแสงทองสลับที่ซับซ้อนกับฝั่งทะเล
- Afternoon sun: ดวงอาทิตย์ของช่วงบ่ายตั้งอยู่ตรงเหนือทางฟ้า แสงอาทิตย์ร้อนจัดและทอดแสงร้อนที่ทำให้ดินแผ่นดินร้อน
- nighttime sun: ดวงอาทิตย์ของเย็นตกลงช้าๆ และทอดแสงที่ละลายทางฟ้า แสงที่เรียบง่ายและอ่อนๆ
แสงของดวงอาทิตย์ไม่เพียงแต่ให้แก้วและความร้อน มันยังเป็นฐานของการทำงานของทุกชีวิตบนโลก รวมทั้งกระบวนการปริมาณการแสงของพืชโดยการสร้างออกซิเจน ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการเติบโตและสร้างออกซิเจนของพืช
เด็กๆ คุณรู้ว่าดวงอาทิตย์สำคัญต่อโลกของเราเท่าไหร่? โดยไม่มีดวงอาทิตย์ จะไม่มีโลกที่สวยงามของเราในวันนี้ ดังนั้น ขอให้เราขอบคุณดวงอาทิตย์ที่ทำให้เรามีแสงและความร้อน
ขอให้เราเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับดวงอาทิตย์ดังนี้:
- sun: ดวงอาทิตย์
- upward thrust: ขึ้น
- Set: ตก
- Morning: ช่วงเช้า
- Afternoon: ช่วงบ่าย
- nighttime: ช่วงเย็น
ด้วยการเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้ เราจะสามารถเข้าใจและบรรยายดวงอาทิตย์ด้วยภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น จงจดจำว่าดวงอาทิตย์เป็นส่วนสำคัญของชีวิตของเรา และจงเก็บรักและปกป้องมันด้วย
ภาพดวงจันทร์** – คำศัพท์ “Moon”
ในกลางคืนที่เงียบๆ ดวงจันทร์อ่อนออกมาแสงของความทิ้งเงียบในคืนนี้แพร่กระจายเป็นเงาทองดวงจันทร์ ดวงดาวในคืน และยับยั้งแสงเปิดเผยโลกทั้งหมดดวงจันทร์มีทรงร่างที่เปลี่ยนแปลงมากมาย บางครั้งเหมือนมีฉากแหลeขนาดเล็ก บางครั้งเหมือนแหลมวงกลมมันไม่เพียงแต่งกายดวงแรง ยังนำมามากมายของงานความเดลิกาและเรื่องสาวกวีเด็กๆ คุณรู้ว่าดวงจันทร์ตั้งอยู่ที่ไหนบนท้องฟ้าไหม? มันมักจะปรากฏขึ้นทางตะวันออก แล้วย้ายไปขึ้นแล้วล่มลงทางตะวันตกการขึ้นและลงของดวงจันทร์บอกเราเรื่องเกี่ยวกับการเรียงตามเวลาดวงจันทร์ยังมีความเกี่ยวข้องกับสัตว์มากมาย เช่น นกหงอนที่กิ่งก้าวอย่างหนักในแสงของดวงจันทร์ และหนูที่กระโดดด้วยแสงของดวงจันทร์ดวงจันทร์ยังมีความเกี่ยวข้องกับวันเฉลิมฉลองของเรา เช่น วันเทศกาลข้าวดินเจ้า ที่ประชาชนจะตะลอนดวงจันทร์ กินดาวนำและไปเจริญประชาสัมพันธ์กับครอบครัวในคืนที่หวานสนุกเรากันหมดเราจะหาคำศัพท์นี้กันได้ คือ Moon หาดูในภาพนี้ ดวงจันทร์อยู่ที่ไหน? แน่นอนว่ามันก็อยู่นั่น! Moon!
ดวงดาว** – คำศัพท์ “ดาว”
ท้องฟ้าแตกตัวด้วยดาวดวงที่มีชาญเหมือนเพลิงฝรั่ง ในคืนที่เย็นและเงียบของวันนี้ พวกเขาเหมือนดาวเครื่องกลที่เข็มโชกที่ตกในคืนมืดอย่างนี้ ฝากความงามให้แก่เสียงแดงที่เป็นแต่งหน้าของท้องฟ้า
“ดูเธอเธอ ดาวดวงนั้นดูเหมือนว่ากำลังสว่างตาอยู่” กล่าวโดยเด็กหญิงที่แข็งขัน
“ใช่นะ ดาวดวงดูเหมือนจะเป็นปิศาจ์เล็กๆ ที่สว่างแสงในท้องฟ้า” หนึ่งในเด็กอีกคนอธิบาย
“ดาวดวงมาจากที่ไหนมันเอง?” หลายคนที่สงสัยขอให้ตอบ
“ดาวดวงคือเด็กท้องฟ้าของเรา พวกมันเดินทางในจักรวาลและสว่างแสงในคืนมืด” ผู้ใหญ่ตอบอย่างเป็นทางการ
เด็กๆ จับตามองกัน และเริ่มอธิบายเรื่องของดาวดวง พวกเขาจินตนาการว่าดาวดวงเดินทางร่วมกันในท้องฟ้าด้วยการเต้นเตลเลิญ วิ่งตามกัน และสว่างแสงด้วยสีสันที่หลากหลาย
“หากฉันสามารถกลายเป็นดาวดวง ฉันจะเป็นดาวดวงที่สว่างที่สุด และสว่างแสงไปทั่วจักรวาล” หนึ่งในเด็กหญิงคิด
นั้นคือคืนที่มีความงามมาก เด็กๆ อยู่ด้วยดาวดวงและเข้าสู่ความทรงจำที่ทรงจำได้ พวกเขาได้เรียนรู้และชมความงามของท้องฟ้าที่เย็น และเพิ่มความความสงสัยต่อจักรวาล ดาวดวง ผู้ส่งเสริมความฝันและความดีใจที่ไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับเด็กๆ
ภาพรั้วเขต – หาคำศัพท์ “Fence” อาจหมายถึง “ประตูรั้ว” หรือ “ที่ปิดกั้น” ในภาษาไทย
สง่าเมษายนายหนุ่มหมองหมวดและเพื่อนๆ ของเขา หมองหมวดเมีย มีกายภาพเล็กเล็กมายังสวนสวยงามแห่งนี้ในช่วงบ่ายที่แสงแดดระลอกเรืองอย่างมีบรรยากาศดีเยี่ยม สวนมีกำแพงสูงเหมือนผู้รักษาการที่ล้อมรอบทั้งหมดของสวน หมองหมวดและหมองหมวดเมียมองอย่างความสนใจต่อกำแพงนี้ พวกเขาอยากทราบว่ากำแพงนี้มีความหมายอะไร
หมองหมวดและหมองหมวดเมียสอบถามกันว่า “หมองหมวดเมีย กำแพงนี้ใช้สำหรับอะไรนี้?”
หมองหมวดเมียเอาตาตาแล้วตอบว่า “กำแพงนี้ใช้เพื่อปกป้องสัตว์ป่าในสวน ทำให้พวกเขาไม่ได้หลบหนีออกไปและยังป้องกันสัตว์ป่านอกไม่ให้เข้ามาด้วย”
หมองหมวดแล้วเห็นแล้วเข้าใจว่ากำแพงมีความหมาย แล้วเขากล่าวต่อว่า “เราจะไปตัวเองเลยว่ามีอะไรภายในกำแพงนี้วันนี้”
จึงทั้งหมองหมวดและหมองหมวดเมียเดินเข้าไปในสวนด้วยความระมัดระวัง พวกเขาพบว่าด้านในกำแพงเป็นโลกที่มีชีวิตอยู่เต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ และสัตว์เล็กๆ
หมองหมวดกล่าวว่า “หมองหมวดเมีย ดอกไม้เหล่านี้เป็นที่ดีเหมือนนี้ พวกเขาดูงดงามมาก”
หมองหมวดเมียขึ้นบนดอกไม้หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ใช่และหมองหมวด ดอกไม้เหล่านี้มีสีสันที่เหมือนกัน งดงามมาก”
พวกเขาเดินไปต่อแล้วเจอกับหนูหนูที่กำลังเล่นอยู่ หนูหนูเห็นพวกเขามาก็สนใจมากและถามว่า “คุณมาเยี่ยมสวนไหม?”
หมองหมวดและหมองหมวดเมียยิ้มและตอบว่า “ใช่เรามาเพื่อตัวเองเลยว่าสวนมีอะไร”
หนูหนูที่เห็นว่าพวกเขามาเยี่ยมสวนก็ยินดีและนำพวกเขาเดินต่อไป
พวกเขามาถึงชายแม่น้ำและพบว่าน้ำในชายแม่น้ำมีปลาหลากหลายลอยอยู่ หมองหมวดและหมองหมวดเมียถูกปลาเหล่านี้ดึงดูดด้วยความฝัน
หมองหมวดกล่าวว่า “หมองหมวดเมีย ปลาเหล่านี้ดูเหมือนจะเล่นดนตรีในน้ำ”
หมองหมวดเมียตอบว่า “ใช่และหมองหมวด ปลาเหล่านี้เล่นดนตรีบนน้ำเป็นที่ดีมาก”
พวกเขาเดินไปต่อแล้วมาถึงหญ้าสีเขียวเข้มและพบกลุ่มไก่ที่กำลังกินอาหารอย่างสงบ หมองหมวดและหมองหมวดเมียเข้าชมกลุ่มไก่และไก่เห็นพวกเขาก็มองอย่างตะลึง
หมองหมวดถามไกงว่า “ไกงที่นี้ คุณกำลังทำอะไรนี้?”
ไกงหนึ่งตอบว่า “เรากำลังหาเมล็ดเมาะที่กินเพื่อที่เราจะเจริญเติบโตดีขึ้น”
หมองหมวดและหมองหมวดเมียมองไปที่ฝีมือของไกงที่กำลังกินอาหารอย่างสนิทสนามและเกิดความเคารพในใจว่าแต่ละชีวิตทุกตัวก็ยังคงเลือกตั้งเพื่อชีวิตอยู่
พวกเขามาถึงทางออกของสวนและหมองหมวดและหมองหมวดเมียข้ามกำแพงกลับเข้าไปด้านนอก พวกเขาหลงใจที่จะถอยออกจากสวนที่มีชีวิตอยู่อย่างมากแต่ใจในของพวกเขาทราบว่ามีความทรงจำที่ดีมาก
หมองหมวดกล่าวว่า “หมองหมวดเมีย วันนี้เราได้เรียนรู้มากมาย แต่ละบริเวณของสวนทุกที่ตามหลังมีชีวิต”
หมองหมวดเมียยอมรับว่า “ใช่และหมองหมวด พวกเราควรช่วยปกป้องสิ่งดีเหล่านี้และทำให้ชีวิตของเรามีความงามมากขึ้น”
ภาพต้นไม้** – หาคำศัพท์ “Tree” ซ่อนอยู่ในต้นไม้
ภาพนี้แสดงต้นไม้ที่งดงามขนาดใหญ่เป็นต้นตัวของภาพเด็ดหนังของเรา ลูกของเราจะรู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของเกมเมื่อพวกเขาเห็นต้นไม้ดังกล่าวเพราะมันงดงามและมีสีเขียวปะปนทั่วต้นไม้และใบไม้ของมัน ในระยะที่เล็กน้อยเราสามารถพบคำศัพท์ “Tree” ซ่อนอยู่ในใบไม้หรือกิ่งไม้ของต้นไม้นี้ ซึ่งทำให้การหาคำศัพท์นี้น่าสนุกสำหรับเด็กเล็ก การหาคำศัพท์นี้ไม่แค่ช่วยเด็กเล็กเรียนรู้คำศัพท์ “Tree” แต่ยังช่วยพวกเขาได้รับความรู้เกี่ยวกับต้นไม้ที่เป็นสัตว์ป่าสำคัญของธรรมชาติด้วย
ภาพแม่น้ำ** – หาคำศัพท์ “River” ซ่อนอยู่ในน้ำ
บ่ายนี้ มิ่ง และเพื่อนๆของเขาตัดสินใจที่จะไปเล่นตามที่แถบชายแดนที่มีแสงแดดระลอก พวกเขามาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่งที่กว้าง น้ำในแม่น้ำชัดเจนที่เห็นได้ชัดและปลาบนน้ำไหลเดินเสรี。
มิ่งทำให้ตัวตลอดหน้าตาตื่นตระหนกว่า “นกเล่น ทำไมคุณจึงร้องรับรองที่นี่บ้านของคุณนี้เสียงเสียงที่แน่นหนาและเสียงที่น่าฟังด้วยความยินดีสำหรับการมาของพวกเรา”
นกตอบว่า “เพราะนี่เป็นบ้านของผมที่งดงาม ที่นี่มีน้ำที่ชัดเจน และหญ้าที่เขียวมะกอก ผมรักที่นี่มาก”
มิ่งขอโทษอีกครั้งว่า “คุณเห็นปลาในแม่น้ำไหม”
นกตอบด้วยฉายยิ้ม “ตามแน่นอนเรา ปลาในแม่น้ำมากมาย บางตัวไหลเดินในน้ำ บางตัวเล่นบนพื้นน้ำ”
มิ่งและเพื่อนๆของเขาเดินตามข้างแม่น้ำเพียงไม่นานก็พบว่าเนินทางข้างแม่น้ำมีที่ดินที่เต็มไปด้วยดอกไม้และพืชพรรณที่มีสีสันสวยง ที่มีสีสันที่งดงาม
มิ่งตะลึงว่า “ว่ายนี้เป็นที่งดงามมากเลย”
เพื่อนของมิ่ง ลิลี่ กล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว ที่นี่มีอะไรที่น่าสนใจอีกมากที่เราจะได้ไปค้นหา”
พวกเขาเดินต่อไปตามแม่น้ำและทันทีพบว่ามีสะพานไม้เล็กบนแม่น้ำ มิ่งตั้งคำถามว่า “สะพานนี้ใช้มาทำอะไร”
ลิลี่ตอบว่า “สะพานนี้ใช้ให้เราข้ามแม่น้ำไปยังด้านข้างมากของแม่น้ำ”
มิ่งและลิลี่พากันข้ามสะพานไม้ไปยังด้านข้างแม่น้ำ พวกเขาพบว่าภาพที่ด้านข้างแม่น้ำเหมือนที่ด้านนี้ มีที่นางหนาวที่เหมือนที่ด้านนี้ที่มีข้าวที่เหลืองและเหลืองลอยลอยด้วยลม
มิ่งตะลึงว่า “ภาพที่นี่เป็นที่งดงามมากเลย พวกเราต้องมาที่นี่มากกว่านี้”
ลิลี่ยอมรับว่า “ใช่แล้ว ที่นี่เป็นที่ที่ทำให้หน้าใจรู้สึกดีมาก”
พวกเขาเล่นต่อไปบนเนินทางข้างแม่น้ำจนถึงเวลาที่ดวงอาทิตย์ตกลงและต้องกลับบ้านด้วยความวิกลกัยใจ การเดินทางนี้ทำให้พวกเขาได้รับความทรงจำที่ดีและทำให้พวกเขารักธรรมชาติที่งดงามของธรรมชาติมากขึ้น
ภาพภูเขา** – หาคำศัพท์ “Mountain” ซ่อนอยู่ในภูเขา
ในแม่น้ำแห่งความท่วมเต็มไปด้วยความง่ายๆของหิมะสูงมีภูเขาหนึ่งที่สูงส่วนไปดูเหมือนเท้าทางสู่อากาศ เหมือนว่าจะบุกเข้าสู่ฟ้าของมนุษย์ ภายในในแก้วของภูเขานี้ ซ่อนตัวอยู่ความลับแห่งคำตัวเดียวที่ถูกซ่อนเร้นในละแวกหุบภูเขา รอให้เด็กๆ ค้นหา
ภูเขานี้เหมือนพ่อค้าผู้รักภาพและปกป้องดินแดนนี้ อยู่แบบอย่างที่เงียบๆ ด้วยพฤกษ์สว่างเหมือนคลุมหมอกบนยอดภูเขา แสงแดดฝั่งขึ้นแล้วกระจายแสงในลักษณะที่ตัดเนียน ใต้หางภูเขานี้มีแม่น้ำหนุ่มเหมือนคำขวัญหวานกระโดด ร้องเสียงอย่างน่ายนาวเหมือนบอกเรื่องราวของภูเขา
เด็กๆ มามีความอดีตและมีความค้นหาเริ่มที่ในหน้าของภูเขานี้ นั่งจับหน้าดูแล้วมีภูเขาตั้งขึ้นกันอย่างต่อเนื่อง เหมือนได้ลงสู่โลกที่แฝงแปลกประหลาด ในโลกที่แฝงแปลกประหลาดนี้มีคำตัวเดียวซ่อนตัวอยู่คือ “Mountain”
เด็กๆ ทำการค้นหาคำตัวเดียวนี้ทุกๆ แกนด้วยภูเขานี้ พวกเขาขึ้นยอดภูเขาที่มีหล่มหมอกและรู้สึกที่สามารถมายทะลุหลาย นำตาย่างระหละหลันตามแม่น้ำที่แสดงด้วยคำขวัญหวานที่กระโดดหลายคราว หรือรันด้วยความเจ็บงำเหมือนสำหรับชายที่ชอบเล่นเล่นเสมอ และรับประทานสภาพอากาศที่เปิดโอกาสแห่งภูเขา
ในช่วงหลังของบ่ายที่มีแสงแดดระยะต่างกัน เด็กๆ ได้ค้นหาพบคำตัวเดียวที่ทิ้งอยู่บนหินใหญ่ในแกนด้วยภูเขา ที่ถูกแสงเขียนอยู่เหมือนส่วนหนึ่งของภูเขา เปิดให้ร่วมสู่สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติขององค์ประกอบต่างๆ ด้วยความยินดีและดูดดายรอยกันๆ
การค้นหาคำตัวเดียวนี้ไม่เพียงแค่ทำให้เด็กๆ ได้รู้คำตัวเดียวใหม่ แต่ยังทำให้พวกเขามีความตั้งใจกับธรรมชาติที่เหลือเลือดและความงาม ด้วยหลังเด็กๆ ทำการลาไปจากภูเขานี้ด้วยบรรยากาศที่มีเนื้อหาที่ท่วมทำให้สบายใจ และภูเขานี้ยังคงอยู่เหมือนเดิมที่ดูแลลับลับของความลับของเขา รอกลับมามาสามารถจะตามรอเด็กๆ ชุดใหม่ล่ะ
ภาพชายฝั่ง – หาคำศัพท์ “Beach” ซ่อนอยู่ในชายฝั่ง
เมื่อมีทางอันใสส์และร้อนระลอกของวันร้อนในทะเลสาบงดงามนี้ เด็กๆ ก็ร่วมกันมายังชายหาดที่อ่อนหวานและนิ่มเนียน ทะเลทับฝั่งด้วยลมทะเลที่เร็วและเสียงเสียงทองเหลืองสวยงามที่น่ารัก. เด็กๆ ติดตามความกระตือรือร้นเดินวิ่งบนชายหาด ล่าลูกทะเลที่ลูกลงมา และทิ้งวิกลทางเท้าที่น่ารัก
บนชายหาด หางของทรายสีสันสวยงามกระจายทั่วทุกๆ ทาง ดูเหมือนเป็นของทรัพย์สินที่รักษาโดยธรรมชาติ. เด็กๆ จับหางของทรายมา ตั้งใจดูเหมือนความคุกคาม และบอกเสียงตะลึงเมื่อพบความสวยงาม. ต้นมะพร้าวบนชายหาดหมุนเหลืองกันตามลม ให้เด็กๆ หลบหลีกความร้อนในช่วงวัน
บนชายหาดที่น่าสวยงามนี้ มีทรัพย์สินลับสนใจซึ่งถูกล้อมรอบๆ โดยทะเลสาบและลมทะเล คือฝากฝีมือที่อยู่บนชายหาดและทะเลทับฝั่ง. เด็กๆ ตัดสินใจที่จะเริ่มเกมหาทรัพย์สิน หาฝากฝีมือนี้. พวกเขาแบ่งตัวเป็นกลุ่มต่างๆ และเดินบนชายหาดลองละตามมุมๆ พูดคุยกันและแบ่งปันข้อมูลเพื่อหาลูกทาง
ในกระบวนการหาทรัพย์สิน เด็กๆ ได้พบสิ่งที่น่าสนใจมากมาย. พวกเขาพบเดือดหาง, หางปู, และทั้งหลายชนิดของสัตว์เฉพาะทะเล. เด็กๆ ก็ที่รู้เกี่ยวกับสัตว์เฉพาะทะเลดังกล่าว และเรียนรู้ชื่อและความเป็นเจ้าของของพวกมัน
หลังจากที่พยายามหลายครั้ง เด็กๆ ก็ได้หาฝากฝีมือที่ลับสนใจนี้. เมื่อเปิดฝากฝีมือ พบเจอหอมที่ติดอยู่ภายในฝากฝีมือ แต่ละหอมมีรหัสที่เล่นด้วยมุมน่าสนใจ. เด็กๆ ก็จับหอมมา และพูดคุยกันเพื่อพยายามปรับรหัส
หลังจากที่พยายามหลายครั้ง เด็กๆ ก็ปรับรหัสทั้งหมดเรียบร้อย. ในที่สุด พวกเขาพบทรัพย์สินที่ซ่อนอยู่บนชายหาดเดี่ยวๆ คือมงคลที่มีประกายอย่างสวยงาม. เด็กๆ ก็ร้องตะลึงและรู้สึกยิิงยอดเป็นชาติ เพราะนี้เป็นผลจากการที่พวกเขาทำงานร่วมกันและสมญาสายของพวกเขา
เกมหาทรัพย์สินนี้ไม่เพียงแค่ทำให้เด็กๆ ใช้เวลาดีขึ้น แต่ยังมีความรู้เกี่ยวกับทะเลและธรรมชาติที่พวกเขาได้รับมาด้วย. พวกเขาออกจากชายหาดนี้ด้วยสุขอยและการเรียนรู้ที่มากมาย
ภาพท้องฟ้า – หาคำศัพท์ “Sky” ซ่อนอยู่ในท้องฟ้า
ฝั่งฟ้าสีฟ้าในโลกที่กว้างขวางอย่างนี้ เราได้หาพบคำศัพท์ “Sky” ซึ่งซ่อนตัวในก้อนเมฆ。จินตนาการว่านี่เป็นที่ที่มีความสำคัญที่น่ารัก ที่ฟ้ากว้างขวางเหมือนจะสามารถจับตามองไปไกลโลกได้
ฟ้าเป็นบ้านของเมฆสีขาว ซึ่งเดินทางอย่างอิสระ บางครั้งรวมกันเป็นหญ้า บางครั้งแยกกันเป็นกลุ่ม ในฟ้าเรายังเห็นแสงอาทิตย์ ซึ่งขึ้นมาและอุ่นไปดินแดนทุกวัน แล้วเคลื่อนไปตายอยู่ที่แนวทางทางตะวันตกของแดนภาคพื้นดิน ในคืนที่เย็น ฟ้ากลายเป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เมฆดวงดาวที่แสงวาบวาบเหมือนจะบอกเราเล่าขาน
ในฟ้าเรายังเห็นดวงจันทร์ บางครั้งมีแสงชัดเจนเหมือนกล้วยตะโกน บางครั้งเป็นเงาอ่อนๆ รูปร่างของดวงจันทร์ที่เปลี่ยนแปลงระหว่างรอบปรากฏเหมือนจะบอกเราเรื่องเวลาที่ผ่านไป และในคืนที่มีแสงแรง หรือดวงดาวเห็นได้ชัดเจน เหมือนเป็นเพลิงของขนมที่ตกลงในท้องฟ้ามืด
ฟ้าเป็นสิ่งที่งดงามมาก ที่ให้เราหลายๆ ที่คิดและอนุญาตให้เราทำหลายๆ อย่างในฟ้า อย่างเช่น ทิ้งลูกฟ้า กระโดดจากที่สูง หรือเดินทางด้วยเครื่องบิน ข้ามภูเขา ผ่านก้อนเมฆ ไปที่ที่เราฝันอยู่
เด็กๆ คุณชื่นชอบฟ้าไหม? คุณมีบทความที่น่าสนใจที่ทำในฟ้าหรือไม่? ขอให้เราร่วมเรียกความทรงจำที่ดีๆ นี้ด้วยกัน!
ภาพกลุ่มก้อนเมฃ** – หาคำศัพท์ “Cloud” ซ่อนอยู่ในกลุ่มก้อนเมฃ
บริเวณบรายเวลาที่แรงแสงและฝนตกอย่างแหละละลาย หล่องละลาย ลูกชายนายมิงมีความสนุกสนานกับน้องสาวของเขา ลูกสาวนายฝาย ตั้งใจที่จะไปเล่นที่สวนใกล้บ้าน。พวกเขากำลังวิ่งเข้าสู่สวน หน้าหนังสือของพวกเขาเป็นหญ้าสีเขียวสด ท้องฟ้าสีน้ำเงิน และมีความมั่นใจด้วยกลุ่มเมฆขาวๆ นายมิงสูงขึ้นและมองไปที่เมฆบนท้องฟ้า แล้วพบว่าเมฆหนึ่งมีรูปที่เหมือนกับหนูนักบิน
“ดูว่านายฝาย เมฆหนึ่งนี้มีรูปที่เหมือนหนูนักบิน!” นายมิงตะโกน
นายฝายยกศีรษะมองไป แล้วพบว่าเมฆนั้นก็แน่นอนที่มีรูปที่เหมือนหนูนักบิน ขนสีน้ำตาลที่มีปากเปิดออกไป ดูเหมือนกำลังบินบนท้องฟ้า
“เราเล่นเกมส์ไหนดีเลยนะ นายมิง?” นายฝายขอให้เล่นเกม
นายมิงเห็นด้วย พวกเขาก็เริ่มสังเกตมองเมฆบนท้องฟ้า นายมิงพบเมฆหนึ่งที่มีรูปที่เหมือนหมา ในขณะที่นายฝายพบเมฆหนึ่งที่มีรูปที่เหมือนหนู
“เมฆนี้เหมือนแมวนะ” นายมิงบอก
“ไม่เป็น นี่เป็นหมานะ” นายฝายตอบกลับ
พวกเขาโต้กันมาโต้กันไป ตอนนี้นายมิงพบเมฆหนึ่งที่มีรูปที่เหมือนเขาน้ำผึ้ง
“ดูว่านี้เมฆนี้เหมือนเขาน้ำผึ้ง” นายมิงชี้แสดง
นายฝายยกศีรษะมองไป แล้วพบว่าเมฆนั้นก็แน่นอนที่มีรูปที่เหมือนเขาน้ำผึ้ง ขายาวยื่นขึ้นไปบนท้องฟ้า
“เราจะหาเมฆที่มีรูปที่เหมือนอะไรอีกดีเลย” นายฝายขอให้หาเมฆอีกครั้ง
ครั้งนี้พวกเขาพบเมฆที่มีรูปที่น่าสนุกมากกว่านั้น มีเมฆที่มีรูปที่เหมือนปลาวาฬ ปลา และหนูเตาแก้ว พวกเขาวิ่งว่ายในสวน สังเกตมองเมฆบนท้องฟ้า และสนุกสนานกับช่วงบ่ายที่ดีนี้
“รู้ไหม นายฝาย เมฆทั้งหมดทำขึ้นมาด้วยระบาดน้ำเย็น” นายมิงบอก
“เรียบร้อยนะ” นายฝายรู้สึกตะลึง
พวกเขาก็กลับมองเมฆบนท้องฟ้าอีกครั้ง และรู้สึกยินดีกับความศรีมงคลของธรรมชาติ ช่วงบ่ายที่ดีนี้ไม่เพียงแค่ทำให้พวกเขามีความสุขและดีจิต แต่ยังทำให้พวกเขาได้รับความรู้ใหม่ด้วยด้วย
ภาพดวงอาทิตย์ – หาคำศัพท์ “Sun” ซ่อนอยู่ในดวงอาทิตย์
ในวันนี้ของเราเสี่ยงแสงอยู่เสมอ และเราสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ที่แสนสว่างในท้องฟ้าได้ง่าย มันสว่างและแข็งแกร่งมากพอที่จะสร้างความร้อนและแสงให้กับโลกของเรา。วันนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับดวงอาทิตย์ และสำรวจดาวที่มีความงามและลึกลับนี้。
รูปร่างของดวงอาทิตย์:ดวงอาทิตย์เป็นโลกโตโตะใหญ่ ที่มีอุณหภูมิสูงมากพอที่จะละลายเหล็กเป็นน้ำเหล็ก สิ่งที่เราเห็นของดวงอาทิตย์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของชั้นบรรยากาศของมันที่เรียกว่าหลังผ้างแสง
ขนาดของดวงอาทิตย์:ความกว้างของดวงอาทิตย์เป็นครึ่งหนึ่งของความกว้างของโลก และขนาดของมันเป็น 1.threeล้านเท่าของโลก หากเราจะนำโลกทั้งหมดมาตั้งเรียงกัน ความยาวของมันยังไม่ถึงครึ่งของความกว้างของดวงอาทิตย์
อุณหภูมิของดวงอาทิตย์:อุณหภูมิของผิวของดวงอาทิตย์ประมาณ 5500 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิในใต้ผิวของมันประมาณ 15 ล้านองศาเซลเซียส อุณหภูมิที่สูงมากนี้ทำให้ดวงอาทิตย์สามารถปล่อยแสงและความร้อนอย่างต่อเนื่องได้
การเคลื่อนไหวของดวงอาทิตย์:ดวงอาทิตย์ไม่ได้อยู่เคยสงบ มันหมุนตามกลุ่มดาวของกาแล็กซี่สากล และยังหมุนตัวเองด้วย ระยะเวลาหมุนตัวของดวงอาทิตย์ประมาณ 25 วัน ซึ่งหมายความว่าด้านหนึ่งของดวงอาทิตย์จะมีการเปลี่ยนแปลงจากคืนไปยังวันหรือวันอื่นๆ
ผลกระทบของดวงอาทิตย์ต่อโลก:ดวงอาทิตย์มีผลกระทบต่อโลกอย่างมาก มันให้แก้วและความร้อนที่เป็นตัวกำเนิดชีวิตในโลก น้ำแห่งแสงของดวงอาทิตย์ หรือแก่งสายฝุ่นทางอากาศที่มีไฟฟ้าทางอากาศ มีผลกระทบต่อโลกด้วยการที่มันสามารถส่งสัญญาณไปยังโลกผ่านระบบโลหะไฟฟ้าของโลก
อนาคตของดวงอาทิตย์:ในขณะนี้ ดวงอาทิตย์ได้เผาเปล่าแล้วประมาณ 45 พันล้านปี แต่มันยังสามารถเผาเปล่าต่อเนื่องไปได้อีกประมาณ 50 พันล้านปี โดยทั้งนี้ ดวงอาทิตย์จะเริ่มขยายตัวเป็นดวงเด่นกลางเมื่อมันเริ่มเผาเปล่าแล้ว และจะกลายเป็นดวงเด่นขนาดเล็กหลังจากนั้น
ด้วยการเรียนรู้เกี่ยวกับดวงอาทิตย์ เราสามารถเข้าใจเกี่ยวกับจักรวาลที่เราอาศัยและตำแหน่งของเราในจักรวาลนี้ดียิ่งขึ้น เราจะร่วมกันสำรวจโลกที่อุปรากรและมีความศรัทธาไหนนี้กันเอง!
ภาพดวงจันทร์ – หาคำศัพท์ “Moon” ซ่อนอยู่ในดวงจันทร์
ดวงจันทร์ขึ้นมาอย่างลับๆ และในความเงียบสงบของคืนนี้ แสงของมันสว่างและกระจายออกทั่วทั้งท้องฟ้า. ในแสงจันทร์ที่สว่างเหมือนลูกบอลทองคำนี้ ดวงจันทร์ดูเหมือนกำลังเชิญคุณมา โดยบอกว่า “เรียกมาเธอ ฉันมีความลับที่จะบอกให้คุณ”
คุณเดินเรียบร้อยเข้าชมดวงจันทร์ และพบว่ารอบดวงจันทร์มีดวงดาวที่กวางกะไหลงเป็นจำนวนมาก และดวงจันทร์ดูเหมือนสว่างยิ่งขึ้นในแสงดวงดาวเหล่านั้น. จนกระทั่งคุณพบว่ามีจุดเล็กอยู่ข้างดวงจันทร์ที่กวางกะไหลงอย่างต่อเนื่อง. คุณเข้าชมและพบว่านั่นคือคำปิดลับ “Moon”.
เด็กๆ คุณพบแล้วไหม? คำปิดลับนี้บนดวงจันทร์คือ “Moon”. มันเป็นสัญลักษณ์ของความงามและความลับของคืน. ขอให้เราร่วมสนุกกับคืนที่เงียบสงบนี้ และรู้สึกถึงความสงบและความงามที่มาจากดวงจันทร์!
ดวงดาว** – หาคำศัพท์ “Star” ซ่อนอยู่ในดวงดาว
ในท้องฟ้าคืนแสนสว่าง มีดาวเรืองวาบออกมาจำนวนมาก ในคืนที่อยู่นิ่มนวลของตน นั่นเหมือนดาวตาะวันที่ประกอบด้วยดินทอง ที่ตกอยู่ในกว้างท้องฟ้าอันลึกลงอย่างยิ่ง. ในกลุ่มดาวเหล่านี้ ซ่อนอยู่ตัวตัวอักษรพิเศษว่า “famous person”. เด็กๆ ถูกเชิญมาหาตัวอักษรนี้ พวกเขาสามารถใช้นิ้วบุลงได้ หรือจะมองดูกลุ่มดาวด้วยตา. เกมนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เด็กๆ รู้สึกถึงความงดงามของท้องฟ้า แต่ยังช่วยพัฒนาความสามารถในการสังเกตและความคิดครอบคลุมของพวกเขาด้วยด้วย.
เด็กๆ ได้รับแรงดันด้วยการมองชมท้องฟ้าและหาตัวอักษรที่ซ่อนอยู่ พวกเขาพบว่าดาวเหล่านี้ดูเหมือนจะชัดด้วยตา เหมือนที่กำลังมองหากลุ่มเด็ก ๆ ด้วยคำว่า “หาฉัน หาฉัน!” เด็กๆ ช้ำช้ำได้กลุ่มดาวที่ซ่อนอยู่ในดาวดาว และตะย-xlากขึ้นมาหยอดกันเพราะพวกเขาพบตัวอักษร “star”. พวกเขาแสดงความยินดีอย่างเลินเล่อ เพราะนี้เป็นการอุทยานที่มีความสนุกสนานมาก.
เกมนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้วิธีการหาตัวอักษรซ่อนอยู่ แต่ยังทำให้พวกเขามีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับดาวดวง. พวกเขารู้ว่าดาวเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล และพวกเขาทำงานด้วยแสงของพวกเขาเพื่อสว่างให้กับความมืดของคืน. ตัวอักษร “big name” ก็เตือนให้เด็กๆ ว่าในทุกสภาพที่มืดมัว ยังมีแสงที่รอที่จะถูกหาจับ.
เด็กๆ ได้รับความสุขและความรู้จากการสำรวจนี้ พวกเขาไม่เพียงแต่ได้รู้วิธีการสังเกตและคิดครอบคลุม แต่ยังได้รับความรู้รู้สึกถึงความงดงามของธรรมชาติด้วย. เกมที่เรียบง่ายนี้ ทำให้เด็กๆ มีความสุขและจำเป็นที่จะจดจำคืนที่สำคัญนี้ไว้.
ภาพรั้วเขต** – หาคำศัพท์ “Fence” ซ่อนอยู่ในรั้วเขต
ฝั่งหาดหลากหลายและฝั่งสวนที่มีต้นไม้ล้อมรอบ มีสถานที่ที่สงบสุขนี้ ที่มีรั้วสูงอยู่ที่รักษาดินแดนนี้อย่างอิสระ รั้วทำด้วยไม้เขาหนาแน่น ที่เผาผึ้งเขียวเป็นหลักฐานของเวลา ในบางด้านหนึ่งของรั้ว มีประตูเล็กอยู่ ผ่านประตูเล็กดังกล่าวสามารถเห็นพื้นที่เล็กบนหญ้าดังกล่าวภายในรั้ว และสัตว์เล็กๆ กำลังกินอาหารอย่างอิ่มดี
แสงแดดที่รั่วผ่านระแวกต้นไม้ลงบนรั้ว ทำให้เกิดร่องแรงแสงที่มีลักษณะเหมือนหลักฐานของเวลา ด้านหลังรั้วเป็นสวนอ้อยที่ผลสะสมมาก และมีกลิ่นสดสวนน่านนิด ในทางที่สุดของสวนอ้อยนั้น มีบ้านเล็กอยู่ หน้าบ้านมีเครื่องมือปศุสัตว์อยู่บนระเบียง แสดงว่าเจ้าของบ้านนี้คือชาวนาที่ด่วนเร่ง
เงาของรั้วจะยืดยาวไปด้วยการเคลื่อนไหวของแสงแดดจนกระทั่งค่ำคืน แล้วไฟไหม้ขึ้นบนรั้วเปิดไฟสายที่ส่องแสงออกมา แสงของไฟสายนี้จะส่องสว่างให้เห็นเส้นทางกลับบ้าน ในพื้นที่ที่สงบสุขนี้ รั้วสงบสุขอยู่และรักษาดินแดนนี้ในทุกคืน รอคอยกลับมาในวันใหม่ที่จะมาถึง
ต้นไม้จำเป็นอะไรเพื่อการเติบโต?
ในป่าแล้ว ต้นไม้ต้องการสิ่งพื้นฐานบางอย่างเพื่อการเติบโตของตนเอง โดยหลักก่อนที่จะเติบโต ต้นไม้ต้องการแสงแดด แสงแดดเป็นแหล่งพลังงานสำหรับต้นไม้ ช่วยในการทำการฝังฝัน ตามหลังนั้น ต้นไม้ต้องการน้ำ น้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเติบโตของต้นไม้ มันช่วยในการขนส่งสารอาหารและน้ำในต้นไม้ นอกจากนี้ ต้นไม้ยังต้องการคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ซึ่งเป็นวัตถุประกอบสำคัญในการทำการฝังฝันของต้นไม้ สุดท้าย ต้นไม้ยังต้องการดิน เพื่อให้ต้นไม้มีที่ทักและเก็บสารอาหาร
แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเติบโตของต้นไม้ มันไม่เพียงแค่ให้พลังงานแก่ต้นไม้ แต่ยังช่วยในการเติบโตและการบานดอกของต้นไม้ด้วย ยิ่งกว่านั้น การแสงที่มีฝังฝันของแสงแดดยังช่วยในการสร้างวิตามินD ซึ่งสำคัญสำหรับสุขภาพของต้นไม้
น้ำเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับการเติบโตของต้นไม้ ต้นไม้สูบน้ำผ่านราก และขนส่งน้ำผ่านทางท่อในกิ่งและใบเพื่อขนส่งไปทั่วต้นไม้ น้ำมีบทบาทหลายอย่างในขั้นตอนการเติบโตของต้นไม้ รวมถึงการรักษาการขยายของเซลล์ ขนส่งสารอาหาร และเกี่ยวข้องกับการทำการฝังฝัน
คาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเป็นวัตถุประกอบสำคัญสำหรับการทำการฝังฝันของต้นไม้ ในกระบวนการฝังฝัน ต้นไม้จะแปลงคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำเป็นกลูโคสและออกซิเจน กลูโคสเป็นแหล่งพลังงานสำหรับต้นไม้ และออกซิเจนจะปล่อยออกสู่อากาศ
ดินเป็นที่ที่ต้นไม้ทักและเก็บสารอาหาร ดินช่วยให้ต้นไม้มีที่ทักและเก็บสารอาหาร ไมโครอร์นในดินช่วยในการย่อยเป็นเนื้อเยื่อที่มีสารอาหารเพื่อให้ต้นไม้กิน คุณภาพ โครงสร้าง และสารอาหารของดินจะส่งผลต่อการเติบโตของต้นไม้
ต้นไม้จำเป็นต้องการแสงแดด น้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ และดิน เพื่อที่จะเติบโตดีโดยสุข สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดมีความสำคัญเด่นชัด และทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนวงจรชีวิตของต้นไม้
ที่ใดที่แม่น้ำไหล?
บนแผ่นดินขนาดกว้างงวยและยาว แม่น้ำไหลลาดยาวทำให้แผ่นดินมีชีวิตและอำนาจแรงใจอยู่ตลอดเวลา. แม่น้ำกำลังไหลมาจากยอดของภูเขาที่หิมะละลายและมาจากน้ำท้องที่หลากหลายแห่ง ผ่านรอยเศษป่าและทุลาบ จนถึงทะเลในท้ายทาง. แม่น้ำไม่เพียงแค่บริโภคชีวิตทุกสิ่งที่ติดของแถบแม่น้ำ แต่ยังนำความรู้ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของมนุษย์ไปด้วยตนเองด้วย
แม่น้ำมักมีต้นกำเนิดที่ยอดของภูเขา ที่นั้นหิมะละลายและมารวมกันเป็นน้ำละลายเล็กๆ ซึ่งกำลังไหลลงมาตามความสูงที่ลดลง น้ำจึงเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นแม่น้ำ
ในขณะที่แม่น้ำไหลลงมา มันจะผ่านลักษณะทางภูมิประเทศต่าง ๆ อย่างเช่น หุบเขา พื้นดินราบ และที่สูง. แม่น้ำไหลผ่านหุบเขาจะทำให้เกิดทางหุบเขาที่สวยงาม; แม่น้ำไหลลงมาในพื้นดินราบจะบริโภคและขุ่นเคืองแดนที่ชุมชนมีความงาม; แม่น้ำที่ไหลลงมาในที่สูงจะยาวงามและสร้างสรรค์ภาพที่สวยงาม
ในขณะที่แม่น้ำไหลผ่านเมือง มันมักเป็นเส้นชายของชีวิตของเมือง. แม่น้ำมีบทบาทในการให้น้ำดื่มและน้ำชลประทานให้แก่เมือง และภาพทางแถบของแม่น้ำยังเพิ่มรสทานสวยงามอีกมากให้กับเมือง
ในท้ายทาง แม่น้ำจะไหลมาเข้าทะเลและทำให้เกิดทะเลที่ใหญ่และสวยงาม. ที่แม่น้ำเข้าทะเลมักเป็นที่ที่มีมหาชนิดชีวภาพที่สมหวุดเป็นมาก มากมายของปลามานี่ที่มาพัฒนาและวาฬแก้ว
การมีอยู่ของแม่น้ำมีความสำคัญต่อมนุษย์และชีวภาพธรรมชาติ และยังบรรจุความหมายทางวัฒนธรรมอีกด้วย. หลายประเทศและประเทศมีเรื่องราว ร้อยละ และเพลงที่เกี่ยวกับแม่น้ำ ซึ่งเพิ่มความงามและความสุขใจให้กับวัฒนธรรมของมนุษย์
ที่รู้แม่น้ำ ก็คือที่รู้แหล่งของชีวิต. ให้ทุกคนร่วมมือปกป้องแม่น้ำ ชื่นชมน้ำ และให้แม่น้ำยังคงไหลตลอดเวลาเพื่อที่จะนำความงามมากยิ่งขึ้นแก่โลกของเรา
สามารถเห็นอะไรบนเขาไหร่?
บนเขาดินขาว คุณจะสามารถมองเห็นอย่างที่น่าทึ่งมากขึ้นก่อนหน้านี้ คือ ท้องฟ้าที่กว้างง่าย ซึ่งดูเหมือนจะใกล้ติดและง่ายต่อการจับตามอง ท้องฟ้าประกอบด้วยเมฆที่มีสีขาวสวยงาม และเมฆนั้นเดินตามท้องฟ้าได้อย่างอิสระ แสงแดดที่ไหลผ่านกลุ่มเมฆส่งให้เกิดร่องแรงแสงที่เปลวตรงดินขึ้น
จากนั้น คุณจะเห็นต้นไม้บนเขาที่สูงและหนาสนิท ซึ่งดูเหมือนจะรักษาดินแดนนี้ ใบไม้ของต้นไม้สะท้อนแสงเขียวเหลืองอันเติบโตในแสงแดง และเมื่อลมเพลิงผ่านไป ใบไม้หมุนตัวและเสียงเสียงทับซ้อนของมันส่งผ่านมาเป็นเสียงที่เรียบสะอาด ในเขตเขียวนี้ คุณอาจจะพบดอกไม้ดอกแปลกหลังกันที่แข็งแกร่งในลมที่พัดผ่านเขา ซึ่งเพิ่มชีวิตและความงดงามให้กับป่าสงวนนี้
ด้านล่างของเขา น้ำท่องแหล่งบินมาก่อนเข้าไปในทะเลสาบ น้ำที่สะอาดเห็นได้ชัดเจน คุณสามารถเห็นปลาวานในน้ำที่วิ่งเข้าไปในแนวทางของเขา และสุดท้ายได้น้ำมารวมเป็นแม่น้ำที่กว้างขึ้น และแม่น้ำวิ่งผ่านหุบเขา และส่งเสียงดังของน้ำท่องผ่านหุบเขา ซึ่งเพิ่มชีวิตและอาหารให้กับหุบเขา
คุณยังจะเห็นสัตว์ป่าที่มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมธรรมชาตินี้ด้วย บางครั้งคุณอาจจะเห็นตุ๊กตากระโดดบนต้นไม้ ซึ่งมีร่างกายที่มีลวดลายและมีประกายในแสงแดง และไม่ไกลนัก คุณอาจจะเห็นแกะเล็กหนึ่งที่เฝ้าระวังรอบๆ และเดินผ่านไปด้วยความง่ายและง่ายต่อสายตา
บนเขาดินขาว คุณยังสามารถมองเห็นปรากฎการณ์ที่น่าประทับใจของทรายออกและตะกอบแสง ในตอนที่ดวงอาทิตย์ขึ้นมา มันข้ามฝั่งแดนและทำให้ท้องฟ้ามีสีทอง และในตอนที่ดวงอาทิตย์ตกลงมา ท้องฟ้าเริ่มถูกทายงานด้วยสีแดงและสีน้ำเงิน จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นความมืด และมีดาวและดวงจันทร์ที่ตกลงมาเป็นจุดประกายในท้องฟ้า
บนเขาดินขาว คุณสามารถมองเห็นท้องฟ้า แม่น้ำเมฆ ต้นไม้ ดอกไม้ ท่องแหล่ง แม่น้ำ สัตว์ป่า และการแสดงทรายออกและตะกอบแสงที่เยี่ยมเยรม ซึ่งรวมกันเป็นโลกธรรมชาติที่มีชีวิตและงดงาม
ว่าน้ำทะเลทำด้วยสิ่งใดขึ้นบ้านหรือไม่
ทะเลสาบนี้ประกอบด้วยทรายและเปลือกหอยนมและทรายมีขนาดเล็กและนุ่มนวล ทำให้คุณสามารถเดินเท้าบนทรายได้โดยไม่รู้สึกเจ็บตัวมาก
บนทะเลสาบนี้มีหอยนมที่มีรูปร่างและสีสันที่หลากหลาย
บนทะเลสาบยังมีหินขนาดต่างๆ บางหินมีรอยรัศมีเรียบร้อย บางหินมีรอยรัศมีขวางขวาง ซึ่งเป็นหินที่ทะเลทรายพัดมาจากชายฝั่ง
บนทะเลสาบยังมีสาหร่ายทะเลที่ถูกนำมายังชายฝั่งระหว่างการเปลี่ยนแปลงของทะเลสาย สาหร่ายทะเลมีสีและรูปร่างที่หลากหลาย บางส่วนเป็นสีเขียว บางส่วนเป็นสีน้ำตาล
บนทะเลสาบยังมีสัตว์เล็กๆ อย่างเช่นหอยหายงาม กุ้ง และกุ้งทราย ซึ่งขุดช่องในทรายเพื่อหาอาหาร
ตามทะเลสาบไกลออกไป คุณสามารถเห็นคลื่นทะเลที่ชนกับชายฝั่งและเสียงที่เปียกประหยัดของมัน คลื่นทะเลนำมาน้ำทะเลและลมทะเล ทำให้ทะเลสาบมีความสดใส
บนทะเลสาบมีรอยเท้าของมนุษย์มากมาย บางรอยเท้าเป็นรอยที่ละเอียดละเอียดที่เพิ่งถูกเลaving บางรอยเท้าเป็นรอยที่มีเพียงสัดส่วนที่ไม่ชัดเจน ซึ่งบันทึกว่ามนุษย์มาทำเล่น เดินเท้าและสงสัยแสงแดดที่ที่นี่
ทะเลสาบมีภาพและความเงียบสงบที่ทำให้เป็นที่แสบใจและสวยงามสำหรับประชาชนที่อยากลายตัวระคายกลั่นใจและสงสัยแสงแดดกับธรรมชาติ
ท้องฟ้าประกอบด้วยอะไร?
ท้องฟ้านั้นประกอบด้วยน้ำตกหลายๆ ตัวที่รวมกันเป็นก้อนเมฆ。เมฆบางครั้งเป็นสีขาว บางครั้งเป็นสีเทา พวกมันเหลืองในท้องฟ้า และนำมาให้มนุษย์เห็นและรู้สึกประหลาดใจโดยมาก
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ท้องฟ้าก็มีความทรงจำและระเบิดไปด้วยแสงแดงทองและแสงอาทิตย์ที่ตกลงบนพื้นดินและสว่างขึ้นเมื่อสุดท้าย แสงของดวงอาทิตย์จะผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ�
เมื่อดวงอาทิตย์เกิดสูงขึ้น สีของท้องฟ้าก็เปลี่ยนจากสีฟ้าอ่อนในเช้ามืดเป็นสีฟ้าดิบในช่วงบ่าย ในขณะนี้เมฆก็กล้าวตัวลึกขึ้นในท้องฟ้าเหมือนกับกำลังเล่นเลอ
เมื่อดวงอาทิตย์ตกออกไป สีของท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงชมพูและสีม่วงส้ม ในขณะนี้เมฆก็มีสีแดงและสีม่วง แต่งเป็นภาพฝายที่งดงาม
เมื่อคืนมาแล้ว ท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสิงทร์นิยมยิ่งยวด ดวงดาวที่รวมกันเรืองแสงและดวงจันทร์ก็ขึ้นขึ้นมา ดวงจันทร์ที่มีแสงมีตันขึ้นและแสงเมฆก็สว่างขึ้นในท้องฟ้า ในเวลานี้เราสามารถเห็นดวงดาวในท้องฟ้าเหมือนกับที่มันกำลังมองกลับมายังเรา และบอกเราเรื่องราวมากมาย
ท้องฟ้าประกอบด้วยน้ำตกหลายๆ ตัวที่รวมกันเป็นก้อนเมฆ เมฆบางครั้งเป็นสีขาว บางครั้งเป็นสีเทา พวกมันเหลืองในท้องฟ้า และนำมาให้มนุษย์เห็นและรู้สึกประหลาดใจโดยมาก
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ท้องฟ้าก็มีความทรงจำและระเบิดไปด้วยแสงแดงทองและแสงอาทิตย์ที่ตกลงบนพื้นดินและสว่างขึ้นเมื่อสุดท้าย แสงของดวงอาทิตย์จะผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่านผ่าน
เมฆทำขึ้นจากอะไร?
แน่นอนว่าเราจะไม่พบภาษาจีนที่ถูกทำเนียนอยู่ในการแปลข้างต้น นี่คือการแปลของเนื้อหาที่คุณได้ให้:
“ในเช้าวันที่มีแดดเทียมเทียมใสใส เด็กๆ ยืนอยู่บนพื้นที่ที่กว้างขวางของฟาร์ม พวกเขาหันหน้าขึ้นมองที่ท้องฟ้าอันแสนสวยงาม. ความวางแบบของก้อนเมฆในท้องฟ้ามีหลากหลาย บางก้อนเหมือนแกะ บางก้อนเหมือนขนมหวาน และบางก้อนเหมือนขนมปังขนาดใหญ่. เด็กๆ บอกตัวครูว่า: “ครู มันมีก้อนเมฆเหล่านั้นที่ประกอบด้วยอะไรมา? “
ครูยิ้มและตอบว่า: “ก้อนเมฆประกอบด้วยน้ำเหล็ก. เมื่อน้ำหมายเหมือนที่อยู่ในอากาศเผชิญกับอากาศเย็น มันจะรวมตัวเป็นตัวน้ำเล็กๆ แล้วมันก็จะรวมกันเป็นก้อนเมฆที่เราเห็น. ก้อนเมฆเป็นส่วนหนึ่งของท้องฟ้า พวกมันเคลื่อนตัวตามลม และรูปร่างและสีของพวกมันก็จะเปลี่ยนตัวตามเวลา.”
เด็กๆ ฟังคำอธิบายของครูและมีความฝันฝากมากขึ้น. พวกเขาเริ่มสังเกตกับก้อนเมฆที่มีรูปร่างต่าง ๆ ในท้องฟ้าและพยายามใช้คำที่เรียนรู้มาอธิบายมัน.
“ครู นั้นเมฆหนึ่งดูเหมือนหนู!” กล่าวโดยเด็กคนหนึ่งที่ตื่นตระหนก.
“ใช่แล้ว ก้อนเมฆนั้นมันจริงๆ ดูเหมือนหนู. รูปร่างของก้อนเมฆมีหลากหลาย บางครั้งเหมือนสัตว์ บางครั้งเหมือนอาคาร และบางครั้งเหมือนสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติ.”
ครูยังเสริมว่า: “สีของก้อนเมฆก็ตรงไปตรงมาจากน้ำเหล็กด้วย.เมื่อแดดตกกระทงบนก้อนเมฆ น้ำเหล็กจะแสงกระจายและทำให้ก้อนเมฆมีสีต่าง ๆ. บางครั้งมันเหมือนขาว บางครั้งเหมือนเทา และบางครั้งมันยังเหมือนสีแดงหรือสีม่วง.”
เด็กๆ ฟังคำอธิบายของครูโดยแสดงความสนใจอย่างลึกซึ้ง พวกเขาเริ่มเข้าใจว่า ถึงแม้ว่าก้อนเมฆจะดูโดยส่วนตัวอย่างเปล่าหลังแล้ว มันก็ประกอบด้วยน้ำเหล็กของธรรมชาติ และมันยังสามารถแสดงสีและรูปร่างต่าง ๆ ตามแสงและลม.”
ครูยังให้ความเคลิญว่า: “ทำได้ดีมาก! คุณได้ใช้ภาษาอังกฤษเพื่ออธิบายรูปร่างของก้อนเมฆ นี่หมายความว่าคุณได้เรียนรู้คำใหม่แล้ว. จดจำว่า ก้อนเมฆประกอบด้วยน้ำเหล็ก พวกมันเคลื่อนตัวตามลม และรูปร่างและสีของพวกมันจะเปลี่ยนตัวตามเวลา.”
เด็กๆ ยังคงสังเกตกับก้อนเมฆในท้องฟ้า พวกเขาเริ่มตระหนักว่า ก้อนเมฆไม่ได้แค่เป็นส่วนหนึ่งของท้องฟ้า แต่มันยังเป็นส่วนหนึ่งของความงามและลึกลับของธรรมชาติ. ด้วยความนำของครู เด็กๆ ได้เรียนรู้คำใหม่ในภาษาอังกฤษและยังเพิ่มความเข้าใจต่อก้อนเมฆในธรรมชาติ.”
สุริยะทำอะไร?
ดวงอาทิตย์ ซึ่งเราเห็นได้ทุกวัน มีลักษณะเป็นลูกบอลที่มีสว่างมาก อย่างไรก็ตาม มันทำงานได้อย่างไร? ดวงอาทิตย์เป็นหนึ่งในดวงดาวสำคัญที่สุดในจักรวาล และการมีอยู่ของมันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตบนโลก
ดวงอาทิตย์ปล่อยแสงและความร้อนทุกวัน พลังงานนี้ถูกแพร่กระจายมายังโลกในรูปแบบของแสง เสียงแสงนี้เป็นฐานของชีวิตทุกชีวภาพบนโลก มันให้พลังงานให้กับการปฏิกิริยาของพืชที่กระตุ้นการปฏิกิริยาการสร้างอาหารของพืช ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทางแบบอาหารของทุกชีวภาพ
พลังงานของดวงอาทิตย์มาจากการปฏิกิริยานิวเคลียร์ในภายในของมัน ในปฏิกิริยาเหล่านี้ อะตอมของฮีเลียมมารวมกันเป็นอะตอมของเฮลิอม์ โดยปล่อยพลังงานมหาศาลด้วย กระบวนการนี้เรียกว่า การปฏิกิริยาการเกลือนนิวเคลียร์ ซึ่งทำให้ดวงอาทิตย์สามารถปล่อยแสงและความร้อนอย่างต่อเนื่อง
ผิวของดวงอาทิตย์เรียกว่าชั้นของดวงอาทิตย์ ซึ่งมีอุณหภูมิสูงมาก ประมาณ 6,000 องศาเซลเซียส ขึ้นไปกว่านั้นคือชั้นของที่มีสี ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าเล็กน้อย แต่ยังร้อนมาก และขึ้นไปด้วยคือชั้นของคราบ ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าแต่มีฟลุยด์ของดาวอาทิตย์ที่มีแรงมาก
ดวงอาทิตย์ไม่เพียงแค่สำคัญสำหรับชีวิตบนโลก มันยังมีอิทธิพลต่อสภาพอากาศและโมเดิลของอากาศของโลกด้วย การกระทำของดวงอาทิตย์ เช่น ดวงดำของดวงอาทิตย์และภาพรวมของดวงอาทิตย์ จะส่งผลกระทบต่อฟลุยด์ของดาวอาทิตย์และชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศของโลก
ดวงอาทิตย์เป็นดวงดาวที่มีอาหารและน่าสนใจ มันไม่เพียงแค่ให้แสงและความร้อนแก่โลก แต่ยังมีอิทธิพลต่อสภาพอากาศและโมเดิลของอากาศของโลกด้วย ด้วยการเข้าใจดวงอาทิตย์ เราสามารถเข้าใจจักรวาลและตำแหน่งของเราในจักรวาลได้ดียิ่งขึ้น
What does the moon do??
ลูกดาวมีบทบาทที่น่าสนใจและสำคัญในลายลักษณ์ มันไม่ได้เป็นดาวโลก แต่เป็นดาวพระครูของโลก มันหมุนรอบโลก และเสร็จสิ้นวงกลมทั้งหมดประมาณทุก 28 วัน
-
ลูกดาวไม่ใช่ดาวโลก แต่เป็นดาวพระครูของโลก มันหมุนรอบโลก และเสร็จสิ้นวงกลมทั้งหมดประมาณทุก 28 วัน
-
พื้นผิวของดาวพระครูเต็มไปด้วยแผ่นดินของอุทก ซึ่งเป็นผลของการชนกันกับหินตั้งแต่หลายล้านปีที่แล้ว
three. ดาวพระครูไม่มีชั้นบรรยากาศ ดังนั้นไม่มีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ไม่มีลมและฝน พื้นผิวของมันร้อนเย็นมาก โดยอาจต่ำถึง แค่ลบ 180 องศาเซลเซียส
-
ดาวพระครูมีทะเลหรือพื้นดินที่เรียกว่า “ทะเล” ซึ่งเป็นพื้นที่ราบสูงที่ทำด้วยหิน
-
หินของดาวพระครูเก่ากว่าหินของโลก บางหินมีอายุเกิน four พันล้านปี
-
ดาวพระครูไม่มีของแรงโรต ซึ่งหมายความว่ามันไม่สามารถปกป้องตนเองหนีแสงกระหายจากทะเลงา
-
มวลน้ำหนักบนดาวพระครูมีเพียงหนึ่งหนึ่งหกของโลก ซึ่งหมายความว่าผู้ที่มีน้ำหนัก a hundred ปอนด์บนโลกจะมีน้ำหนักเพียง 16.6 ปอนด์บนดาวพระครู
-
ดาวพระครูมีบทบาทสำคัญต่อปรากฏการณ์น้ำทะเลของโลก โดยน้ำทะเลบนโลกมีอิทธิพลจากกระแสดึงของดาวพระครู
-
แสงของดาวพระครูมาจากแสงอาทิตย์ เพราะดาวพระครูไม่มีแหล่งแสงของตนเอง
-
ดาวพระครูไม่มีชีวิต หรืออย่างน้อยยังไม่มีการค้นพบชีวิต แต่นักวิทยาศาสตร์ยังคงตามหาหลักฐานของชีวิตที่อาจกำลังอยู่บนดาวพระครู
ลูกดาวที่งดงามและมีลักษณะลึกลับทำให้มันเป็นสัญลักษณ์ของความคิดและแนวคิดการค้นคว้าของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นตำนานเทพนิยายในยุคโบราณ หรือการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบัน ดาวพระครูก็เป็นบทบาทที่จำเป็นที่มีอยู่
? ดาวดวงดวงดูเหมือนไหน?
ครอบงำในท้องฟ้าเมื่อคืน ดาวดวงดวงที่มีความเป็นดาวเครื่องมือทองเหลือง ที่ประดับอากาศมืดดังเช่นดาวตราสรรพานุภาพ มีรูปร่างที่แตกต่างกัน บางตัวเหมือนเรือเล็ก บางตัวเหมือนหนูเล็ก บางตัวเหมือนทองแท้ และบางตัวเหมือนลูกไฟ มีดาวที่มีความสว่าง มีดาวที่มีความมืด มีดาวที่แฝงแหวกที่ห่างไกล และมีดาวที่แฝงแหวกที่ใกล้ชม่าย
ดาวที่มีความสว่างเนื่องจากภายในดาวมีอะตอมไฮเดรจินที่เกิดการปรับแปลงนิวคลีออร์ในสภาพที่ร้อนและแรงกดดัน ที่ปล่อยอานุภาพมหาศาลออกมา อานุภาพเหล่านี้แพร่กระจายมายังทุกมุมโลกของจักรวาล ทำให้เราเห็นดาวสว่างสวยของเรา
ในคืนที่สว่าง หากเราจับตามองขึ้นไป จะเห็นดาวดวงหลายหลาย ที่จัดตัวเป็นรูปแบบต่าง ๆ อย่างเช่น ดาวเจตนาย ดาวเสาะทอง ดาวที่มีความงามและมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับดาว เช่น ตำนานของนายและนางโปรมิด
แม้ดาวดวงดวงดูว่าห่างไกลจากเรา แต่ในต้องการกล่าวว่าพวกมันห่างออกไปมากที่สุด บางดาวห่างจากโลกไม่ต่ำหนึ่งสิบล้านกิโลเมตร บางดาวห่างกว่าสองสิบล้านกิโลเมตร ดังนั้น เราเห็นการเคลื่อนไหวของดาวเป็นเพราะการหมุนของโลก
ดาวเป็นสิ่งที่มีความงามในจักรวาล ที่มีมาลงมาสนใจและเรื่องราวที่ดีงาม ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือประชาชนทั่วไป ทุกคนที่มีความเชื่อมั่นและความงล้างต่อดาว
กำแพงมีความตั้งตารองไหน?
ที่ขานของหมู่บ้าน มีรั้วที่ทำด้วยไม้และหิน ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเส้นแบ่งของพื้นที่ แต่ยังเป็นกำแพงป้องกันแห่งบ้านเมืองด้วย มันหยุดความหวานแห่งโลกดังนอก และปกป้องความสงบของหมู่บ้าน
รั้วนี้มีเรื่องราวของตนเอง มันเห็นด้วยสายตาวันและความเปลี่ยนแปลงของวันที่ผ่านไป มันเข้ารับการทายาทและรายละเอียดของลมและน้ำฝน แต่มันยังยืนอย่างแข็งแรงอยู่ที่นั่น ปกป้องพื้นที่นี้
เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง หญ้าที่ด้านข้างรั้วจะบานด้วยดอกที่มีสีที่หลากหลาย ดึงดูดแมงมุมและเมยามาเยี่ยม ในคืนวันร้อนของฤดูร้อน ชาวบ้านจะมาชุมนุมที่ทางหลอดน้ำหลังรั้วเพื่อเย็นลงกำลังสนทนาและบอกเรื่องต่างๆ
ในฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ที่ด้านข้างรั้วจะสวมผ้าสีเหลืองแกมเงิน ลมในฤดูหนาวเล็งลมล่องเสียงเสียงร่วงของใบไม้ และในฤดูหนาว รั้วจะเต็มไปด้วยขาวน้ำแข็งที่เปลี่ยนแปลงเป็นวัลสง่าในฤดูหนาว
รั้วนี้เพียงแค่รั้วหนึ่ง แต่มันนำมาความรักและความเฝ้าดูของชาวบ้านต่อบ้านเมืองของพวกเขา มันเป็นสายตาสวยงามและกำแพงป้องกันบ้านเมืองของพวกเขา