อาจจะเริ่มด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจของเด็กๆ โดยนำไปสู่การเรียนภาษาอังกฤษโดยง่ายและเพลิดเพลิน ในบทนี้ เราจะสร้างปฏิบัติการที่น่าตลกและเล่นตลกที่ช่วยเด็กๆในการฝึกฝากภาษาอังกฤษโดยสบายและมีความสนุกสนานด้วยกัน ขอให้เด็กๆเข้าร่วมเล่นและเรียนรู้กับเราด้วยกัน!
ฝายวาลย์เข้าร้านหนังสือ
Part 1: การเข้าร้านหนังสือ
“Hi! Can I help you find a book?” คุณครูบอกเกี่ยวกับหนังสือที่เด็กชอบอ่าน
Part 2: การค้นหาหนังสือ
“Sure! Do you have any books about animals?” เด็กบอกต่อ
“Yes, we have a whole section on animals. What kind of animal are you interested in?” คุณครูตอบ
Part 3: การเลือกหนังสือ
“Can you show me some books about cats?” เด็กบอกต่อ
“Certainly! Here are some books about cats. Take a look and see which one you like.” คุณครูนำหนังสือมา
Part 4: การจ่ายเงิน
“That book is $10. Do you want to look at any others?” คุณครูบอก
“No, I think I’ll take this one. How do I pay for it?” เด็กบอกต่อ
Part 5: การจบการซื้อ
“You can pay at the cash register. Do you have a credit card or cash?” คุณครูบอก
“I have cash. Thank you!” เด็กบอก
“Great! Here you go. Have a nice day.” คุณครูมอบหนังสือและบอกใจดี
Part 6: การออกจากร้าน
“Enjoy your new book!” คุณครูบอกอีกครั้ง
“Bye! Thank you for your help!” เด็กบอกและบอกขอบคุณ
“You’re welcome! Have a great day!” คุณครูตอบ
นี่เป็นบทสนทนาที่ช่วยเด็กเรียนรู้ภาษาอังกฤษและพฤติกรรมการซื้อของในร้านหนังสือ โดยใช้ภาษาที่ง่ายและเหมาะกับวัยเด็กอายุ 6-7 ปี
การเลือกหนังสือ
เรื่องราวของหนังสือ:หนึ่งวันหลังจากเล่าหนังสือเสร็จแล้ว หนุ่มหนังสือตั้งใจที่จะไปหาหนังสือใหม่ที่จะอ่าน。เขาวางหน้าไปยังห้องหนังสือของเขาแล้วเริ่มดูหนังสือที่อยู่บนตู้หนังสือและคู่ขนานของเขา。
หนังสือแรก:“เรื่องของหลานแมว”หนุ่มหนังสือรู้สึกว่าหนังสือนี้ดูดีเหมือนจะมีราวที่น่าสนใจสำหรับเขาเล็ก ๆ จึงจับหนังสือมาอ่านฟังโดยติดตามบทที่ว่า:
“หลานแมวชื่อสมิท เป็นหนึ่งในหลานแมวที่แปลกประหลาดของมหาสมิท แมวผู้เป็นผู้นำของหลานแมวในเมืองนี้…”
หนังสือที่สอง:“เรื่องของหลานหมา”หนุ่มหนังสือเห็นหนังสือนี้อยู่บนเนื่องจากเขาชื่นชอบหลานหมาเล็ก ๆ จึงจับหนังสือมาอ่านฟัง:
“หลานหมาชื่อปีโป ทำงานอยู่ที่มหาสมิทสตูกขายของเล่น ปีโปชอบจัดการขายของเล่นและเล่นกับเพื่อน…”
หนังสือที่สาม:“เรื่องของหลานกล้วย”หนุ่มหนังสือรู้สึกว่าหนังสือนี้ดูดีเหมือนจะมีราวที่มีสีสันมาก จึงจับหนังสือมาอ่านฟัง:
“หลานกล้วยชื่อสมิง เป็นหนึ่งในหลานกล้วยที่ชอบเล่นกีฬา และเล่นเกมทายคำศัพท์…”
หลังจากที่อ่านหนังสือแล้ว:หนุ่มหนังสือตั้งใจที่จะเลือกหนังสือที่เขาชอบที่สุดจากหนังสือที่อ่านแล้วเพื่ออ่านต่อเป็นต่อไปเพื่อรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวและหลานแมวที่เขาชอบดูแลตามหนังสือที่เขาเลือกมาอ่านไปแล้วและกลับ
Do you want to look at any others?
Child ©: ชายหรือหญิง จะเรียกว่า?
Bookstore Clerk (BC): ชายหรือหญิง จะเรียกว่า “boy” หรือ “girl” ก็ได้ครับ?
C: ฉันรองรับว่า “boy” หรือ “girl” ก็ได้ครับ แต่มีคนอื่นเรียกว่า “he” หรือ “she” ใช่ไหม?
BC: ใช่นะเรียน! ในภาษาอังกฤษ “he” หมายถึง “boy” หรือ “man” และ “she” หมายถึง “girl” หรือ “woman” ครับ.
C: แล้วว่า “I” หมายถึงใคร?
BC: “I” หมายถึง “me” ครับ. มันเป็นดัชนีที่ใช้เรียกตัวเองเอง ครับ.
C: ฉันอยากพูดถึงครอบครัวของฉัน แล้ว “my father” และ “my mother” จะเรียกว่าไหน?
BC: “My father” จะเรียกว่า “my dad” หรือ “my father” และ “my mother” จะเรียกว่า “my mom” หรือ “my mother” ก็ได้ครับ.
C: ฉันอยากเพิ่ม “my brother” และ “my sister” ให้กับครอบครัวของฉัน แล้วไง?
BC: “My brother” จะเรียกว่า “my bro” หรือ “my brother” และ “my sister” จะเรียกว่า “my sis” หรือ “my sister” ก็ได้ครับ.
C: แล้ว “we” หมายถึงใคร?
BC: “We” หมายถึง “us” ครับ. มันเป็นดัชนีที่ใช้เรียกตัวเองและคนอื่นๆ ที่อยู่กับฉัน ครับ.
C: ฉันอยากพูดถึงเพื่อนของฉัน แล้ว “my friend” จะเรียกว่าไหน?
BC: “My friend” จะเรียกว่า “my friend” หรือ “my pal” ก็ได้ครับ.
C: ฉันอยากพูดถึงรายการที่ฉันชอบ แล้ว “I like to watch TV” จะเรียกว่าไหน?
BC: “I like to watch TV” จะเรียกว่า “I enjoy watching TV” หรือ “I like watching TV” ก็ได้ครับ.
C: ฉันอยากพูดถึงอาหารที่ฉันชอบ แล้ว “I like to eat ice cream” จะเรียกว่าไหน?
BC: “I like to eat ice cream” จะเรียกว่า “I enjoy eating ice cream” หรือ “I like eating ice cream” ก็ได้ครับ.
C: ฉันอยากพูดถึงสิ่งที่ฉันชอบที่สุด แล้ว “My favorite thing is to play with my friends” จะเรียกว่าไหน?
การจ่ายเงินและจบการซื้อ
Child ©: I think I want this book about the rainbow. How much does it cost?
Bookstore Clerk (BC): That book is $5. Would you like to pay with cash or a card?
C: I have cash. Here you go.
BC: Thank you. Here is your book. Have a nice day!
C: Thank you! I can’t wait to read it.
BC: You’re welcome! If you need any more help, just let me know.
C: Can I look at the other books while I’m here?
BC: Of course, you can. We have a wide selection of books here. What else are you interested in?
C: I saw a book about dogs. Is that over there?
BC: Yes, it is. Let me show you that section.
C: These look fun! I want this one about playing in the park.
BC: That one is $3. Would you like to add that to your purchase?
C: Yes, please.
BC: Alright, that will be $8 in total. Here’s your change.
C: Thank you! I like books that tell stories.
BC: I’m glad you do. Reading is a great way to learn new things.
C: I want to read all the books in this store!
BC: Well, you’ll have to come back and buy them one by one. It’s a good way to start a library.
C: I’ll do that! I love reading.
BC: It’s great to see a young reader like you. Keep reading, and you’ll keep learning.
C: Bye! Thank you for helping me find all these great books!
BC: You’re welcome! Have a wonderful time reading your new books!
ฝายวาลย์ออกจากร้าน
เมื่อเด็กเรียนตลอดจนเรียนแล้ว และเตรียมที่จะออกจากร้านหนังสือ คนขายหนังสือก็ร้องขายว่า “Do you want to look at any others?” หรือ “คุณอยากดูหนังสืออื่นหรือไม่?”
เด็กเห็นหนังสือต่างๆ บนเต๋นหนังสือ และตะวันแห้งออกแสงอย่างแข็งแกร่งนั่นทำให้เขาเห็นว่าหนังสือมีสีสันงามแหลมและรอบโลก
“Sure, I’ll take a look at those books,” กล่าวเด็กกับคนขายหนังสือ แล้วเขาก็เริ่มเดินไปดูหนังสือต่างๆ บนเต๋น
หนังสือเหล่านี้มีภาพวาดที่ดีและเป็นมาลาย ทำให้เด็กรู้สึกว่าเขากำลังอยู่ในโลกของหนังสือ
“Wow, these are so colorful!” กล่าวเด็ก แล้วเขาก็เลือกหนังสือที่เขาชอบมากที่สุด
“Which one do you like?” กล่าวคนขายหนังสือ แล้วเขาก็ชี้ที่หนังสือที่เขาเลือก
“I like this one,” กล่าวเด็ก แล้วเขาก็กลับมายังที่ต้นเต๋นหนังสือ
“Great choice! How much is this book?” กล่าวคนขายหนังสือ แล้วเขาก็เริ่มคำนับเงินเพื่อจ่ายหนังสือ
“Two ten-dollar bills, please,” กล่าวเด็ก แล้วเขาก็เอาเงินออกมามอบให้คนขายหนังสือ
“Thank you, here is your book,” กล่าวคนขายหนังสือ แล้วเขาก็มอบหนังสือและเงินกลับมาให้เด็ก
“Thank you so much!” กล่าวเด็ก แล้วเขาก็เรียกดวงตาเห็นหนังสือที่เขาได้มาเป็นของตัวเอง
“Enjoy your new book!” กล่าวคนขายหนังสือ แล้วเขาก็เดินออกจากร้านหนังสือด้วยความยินดีและรู้สึกยังกันกำลังเดินทางกับหนังสือที่เขาได้มาเป็นของตัวเอง
และก็เป็นที่แน่นอนว่า เด็กนี้จะมีบันเทิงอย่างมากเมื่อเขาเริ่มอ่านหนังสือที่เขาได้มาเป็นของตัวเองดังกล่าว