ในโลกที่เต็มไปด้วยการสำรวจและการค้นคว้าความศรรค์สมบัติ เด็กๆเสี่ยงกับจะมีความคุกคามต่อเสียงที่มาจากธรรมชาติ เราจะนำเด็กๆมาเล่นเกมส์ปฏิสัมพันธ์เพื่อเปิดเผยเสียงของธรรมชาติ และสนุกสนานกับเอกลักษณ์ของธรรมชาตินี้ด้วยความโดดเด่นของเรา
ปราสาทประกาศนายกาลหลวง
มันเป็นเช่นนี้:
“ในเช้าวันที่มีแดดออกมาอย่างแจกแจง มิงกะ และแม่ของเขาได้ไปเยือนป่าที่ใกล้บ้านด้วยกัน。มิงกะรู้สึกอนุรักษ์ต่อที่แสบที่มีนกบนต้นไม้และกล่าวว่า: “แม่ ดูนกนี้ ทำไมมันจึงร้องเพลง? แม่ยิ้มแล้วตอบว่า: “เพราะฤดูใบไม้ผลิกำลังเข้ามา นกต่างๆกำลังต้อนรับฤดูใบไม้ผลิขึ้นมาอยู่แล้ว ระบุว่าฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่สิ่งมีชีวิตกำลังรุ่งโรจน์ และสัตว์มากมายจะต้องรุ่งตัวจากการหลับหนังตามฤดูหนาวนี้。
“มิงกะตั้งคำถามว่า: “แล้วหนังนั้นกินอะไรมากที่สุด? แม่ถือมือถือของตัวเองและเปิดแอปที่มีรูปภาพบนหน้าจอแล้วกล่าวว่า: “เช่นนี้สามัญสัตว์ซึ่งกินซางอุดกับเบาะเล็ก ดูแล้วนี้เป็นหนู มันกินหญ้าและรากไม้.”
มิงกะมองในหน้าจอที่มีรูปภาพอีกหนึ่งอย่างแล้วกล่าวว่า: “แม่ หนูนี้ดูเป็นสัตว์ที่น่ารัก มันกินอะไร? แม่ยิ้มและตอบว่า: “หมีเป็นสัตว์ที่กินแบบผสม มันกินทุกอย่าง รวมถึงพืชผัก ปรอท และสัตว์เล็กๆ.”
มิงกะตั้งคำถามอีกครั้งว่า: “แล้วเราจะได้รู้ว่ามันกำลังพูดอะไรอย่างไร? แม่เอาเครื่องเล่นเสียงออกมาและเล่นแต่งเสียงเสียงของสัตว์: “ฟังเสียงนี้นั้น นี่เป็นเสียงของสัตว์ คุณสามารถพยายามสำเร็จเสียงอย่างไร แล้วพยายามเดาว่ามันเป็นสัตว์ไหน.”
มิงกะกลับเสียงแบบตนเองและพยายามสำเร็จเสียงเรียบร้อยก่อนที่จะถามอีกครั้งว่า: “แม่ ฉันเดาว่ามันเป็นสามัญสัตว์?”
แม่ยิ้มและหมุดหัวว่า: “ไม่ใช่ มันเป็นหนู.”
มิงกะพยายามสำเร็จเสียงเพิ่มขึ้นหลายครั้งก่อนที่จะจบลงด้วยคำว่า: “แม่ ฉันเข้าใจได้แล้ว มันเป็นหมี!”
แม่ชื่นชมว่า: “เลยว่ามิงกะ! คุณเรียนรู้เร็วทันใจ คุณรู้ไหมว่าการเรียนรู้ภาษาสัตว์นั้นเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดีมาก.”
มิงกะทิ้งหัวไปและกลับมองดูสัตว์ต่างๆในป่า ระหว่างที่เสียงเสียงของสัตว์เหมือนเป็นเพลงที่มีความเฉลิมเฉล็ต ทำให้การเรียนรู้ของมิงกะเติบโตด้วยความบันเทิง.”
ขอให้ตรวจสอบก่อน ไม่ให้มีตัวอักษรจีนเล็กน้อย
มันเป็นเช่นนี้:
เช้าวันที่มีแดดออกและสว่างมาก มิ่ม และเพื่อนๆของเขาตัดสินใจที่จะไปตัวสำรวจป่า. พวกเขาสนุกสนานอย่างสูงกว่าและหลงล่วงตามเส้นทางบนเลนทางเดิน. ทันทีที่พวกเขาได้ยินเสียงร้องของนกที่ดีก็หยุดบนทางและฟังละเอียด.
“นี่คือนกอะไรนะ?” มิ่มสงสัย.
“ไม่ทราบ จะร่วมเล่นแทงเดาไหม?” พี่สนิทของมิ่มตอบ.
มิ่มและพี่สนิทของเธอเริ่มอภิปรายกัน พวกเขาพยายามหาความคิดเห็นตามที่เสียงร้องของนกมีต่องาน, ระดับทอง, และระยะเวลา. พวกเขาเล่นตามลำดับและบอกความคิดเห็นของตัวเอง แต่ยังไม่มั่นใจเลย.
“ฉันคิดว่านี่คือหงอน ฉันยังคงร้องเสียงที่สะอาด” มิ่มบอก.
“ไม่ ฉันคิดว่านี่คือกะกา ฉันยังคงร้องเสียงเหมือนกำกับเพลง” พี่สนิทของเธอโต้ตอบ.
ทันทีที่นายหงอนงานงามได้บินลงมาจากต้นไม้ และเข้าร่วมชมอยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้หนึ่ง. มิ่มและพี่สนิทของเธอทั้งคู่ที่ตาลงตายอย่างแปลกใจและยืนยันความคิดเห็นของพวกเขา.
“น่าทึ่งมากไปเลย!” มิ่มบอก.
พวกเขายังคงสำรวจป่า และตลอดทางได้เจอหน้าจริงของสัตว์ที่น่าสนุกสนาน หรือเช่นเส้นทาง, หนูเป็นเพื่อนที่เหลือเอง, และหนูเหมือนเลี้ยงลูกดอง. พวกเขาบอกเกี่ยวกับสัตว์เหล่านี้ด้วยภาษาอังกฤษ และมีการเล่นตลอดเวลา ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความรู้ แต่ยังเพิ่มที่ว่าเป็นภาษาอังกฤษด้วย.
พวกเขามาถึงพื้นที่หญ้ากว้างใหญ่ที่มีดอกไม้สีสันแตกต่างกัน. มิ่มและพี่สนิทของเธอเล่นเกมซ่อนหากันบนพื้นที่หญ้า พวกเขาบอกเอกฉันตามภาษาอังกฤษและหากัน “where are you?” ตามหากันเอง.
ในวันสำรวจป่าครั้งนี้ มิ่มและเพื่อนๆของเขาไม่เพียงแต่จะสวมทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีการเล่นเกมด้วย ที่ทำให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์มากมาย!
ภาษาไทย: ประกาศความหมาย: เสียงของธรรมชาติ
-
แสดงภาพ：เริ่มต้นด้วยการแสดงใบเก็บภาพที่มีรูปสัตว์ต่างๆ เช่น แมว หมา รอย โค และอื่น ๆ
-
เล่นเสียง：เล่นเสียงสัตว์ที่เหมือนกับภาพที่แสดงอยู่ ตัวอย่างเช่น สำหรับภาพแมว จะเล่นเสียง “มิ่มมิ่ม” สำหรับภาพหมา จะเล่นเสียง “วาววาว”
-
คาดเดาสัตว์：ให้เด็กปิดตา แล้วเล่นเสียงสัตว์หนึ่ง โดยให้เด็กคาดเดาว่ามันเป็นสัตว์อะไร และบอกชื่อของมัน
four. ยืนยันคำตอบ：เมื่อเด็กคาดเดาคำตอบ ยืนยันว่าคำตอบของเขาถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้อง ให้รางวัลหรือเป็นการเลี้ยงอาหาร
-
ฝึกซ้อมซ้ำ：ฝึกซ้อมเล่นเสียงและภาพตามหลังกัน ให้เด็กฝึกซ้อมตลอดเวลาเพื่อทรงจำ
-
เพิ่มความยาก：เมื่อเด็กเรียนรู้เสียงสัตว์แล้ว ควรเพิ่มความยากด้วยการเล่นเสียงที่ผสมกัน ให้เด็กคาดเดาว่ามันเป็นเสียงสัตว์อะไรหลายตัว
-
สรุปการเรียนรู้：หลังจากเล่นเกมส์เสร็จ สรุปชื่อสัตว์และเสียงที่เด็กเรียนรู้ เพื่อช่วยเด็กทรงจำได้ดีขึ้น
ผ่านเกมส์นี้ เด็กไม่เพียงได้เรียนรู้ชื่อสัตว์ แต่ยังได้รู้เสียงของสัตว์ด้วย ซึ่งช่วยให้เด็กเข้าใจธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
