ในบริเวณที่มีประชาชนกันที่มีแปลกแปลงและการค้นหาโปรบัติที่มีสนุกสนานหลากหลาย เด็กๆ จะได้เรียนรู้ศัพท์และกระบวนวากภาษาอังกฤษผ่านทางเกมและกิจกรรมที่มีความมากกว่าความสนุกสนาน。ที่นี่ เราจะนำเด็กๆ มุ่งหน้าสู่รายการท่องเที่ยวที่มีความสนุกสนาน ที่พวกเขาจะได้สำรวจลับลับของภาษาอังกฤษ และสนุกสนานกับการเรียนรู้ในบรรยากาศที่ง่ายและมีความสุขตลอดเวลา。
ขนมน้อยเจ้าจ้านั่นริบริบของดังกล่าว
ในเช้าวันที่มีแสงอาทิตย์ระลอกมากที่สุด แมว Tom ตัดสินใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ มันนั่งอยู่ติดตามหน้าต่าง สนใจในการฟังคอร์สภาษาอังกฤษที่ออกอากาศทางเรดิโอ หูของ Tom อยู่แน่นนับและตาของมันมองลึกลงไปในหน้าจอ มันอยากจะเรียนรู้คำศัพท์และคำสั่งภาษาใหม่
วันหนึ่ง ขณะที่ Tom วิ่งเดินอยู่ในสวนสาธารณะ มันได้พบกับสุนัขเล็กที่กำลังเล่นbuddy ที่ร้องแก้วตลอดเวลาและแสดงให้เห็นบัตรคำศัพท์ที่มันเรียนใหม่ pal ร้องแก้วติดต่อกับ Tom ว่า “Tom ครับ! คุณเรียนอะไรดีกับฉันเอย?”
buddy ตอบกลับอย่างยิ่งกำลัง “ฉันกำลังเรียนภาษาอังกฤษเพื่อที่จะสามารถคมติดกับเพื่อนๆ ได้ดียิ่งขึ้น!”
Tom จึงตัดสินใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษกับเพื่อนๆของมัน Tom และเพื่อนๆของมันเริ่มสนทนาด้วยภาษาอังกฤษขึ้นกับคำว่าเริ่มต้นเช่น “hiya, how are you?” (สวัสดีครับ! คุณจะดีมากมาย?) และ “what is your call?” (คุณชื่ออะไร?)
กับเวลาที่ผ่านไป Tom และเพื่อนๆของมันได้รวมตัวกันที่สวนสาธารณะเพื่อเรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน พวกเขาเรียนเกี่ยวกับการอธิบายสิ่งแวดล้อมตัวเอง อย่างเช่น “blue sky” (ท้องฟ้าสีน้ำเงิน) “inexperienced grass” (หญ้าสีเขียว) และ “yellow plants” (ดอกไม้สีเหลือง)
วันหนึ่ง ขณะที่ Tom อยู่ในสวนสาธารณะ มันได้พบกับหนูSally ที่ร้องเพลงบนต้นไม้ Sally ร้องเพลงด้วยตัวเองและ Tom ได้ถาม “Sally ค่ะ! คุณเรียนเพลงเพราะอะไร?”
Sally ตอบด้วยภาษาอังกฤษว่า “ฉันร้องเพลงเพราะฉันชอบดนตรี และฉันอยากแบ่งปันความยินดีกับทุกคน!”
Tom และเพื่อนๆของมันถูกเสียงร้องเพลงของ Sally ดึงตาม พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเรียนอธิบายสัตว์และเสียงร้องของมันด้วยภาษาอังกฤษ เช่น “meow” (หมอด), “bark” (หลัง) และ “tweet” (เติ้ว)
ผ่านการฝึกฝนและการประชุมกันที่สวนสาธารณะ Tom และเพื่อนๆของมันเรียนรู้คำศัพท์และคำสั่งภาษาใหม่และทำการประชาสัมพันธ์กันด้วยกันมากยิ่งขึ้น
ในที่สุด Tom และเพื่อนๆของมันได้จัดงานหนึ่งที่สวนสาธารณะเพื่อรวมกันเรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน พวกเขาช่วยเหลือกันแบ่งปันเรื่องราวของตัวเอง ลองเล่นเกมใหม่ และจบลงเพื่อด้วยรายการที่มีการยิ้มยากในทุกที่
ผ่านการเดินทางการเรียนการสอนนี้ Tom และเพื่อนๆของมันไม่เพียงแค่เรียนรู้ภาษาอังกฤษ แต่ยังได้เรียนรู้ว่าจะใช้ภาษาเป็นเครื่องมือที่เชื่อมต่อกันและสร้างความทรงจำที่ดีกับกันด้วย
หาคำซ้ำที่ซ่อนตัว: ลักษณะลึกลับของธรรมชาติ
เช้าวันแก้วแดงเป่าแล้ว หนูอายมี่เดินทางไปสนุกในป่าด้วยความรู้สึกทะเลาะวาที่มีแบบปกติ ซึ่งเธอนำตัวมันเองไปด้วยติ้งหลังที่มีสิ่งของโปรดชอบและอาหารที่มีในใจเธอเอง อายมี่เดินไปและสงสัยการรอบตัวที่มีสวยงามทั้งหลาย ซึ่งเธอสามารถเห็นดอกที่มีสีที่ชัดเจน ที่เรียกว่าสีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน และสีม่วง
อายมี่เดินต่อไป มาถึงแม่น้ำเล็ก ซึ่งเธอได้ยินเสียงน้ำไหลและเห็นใบไม้ลอยบนผิวน้ำ เธอยังเห็นนกตั้งอยู่บนต้นไม้เพื่อร้องเพลงที่เหมือนเสียงนิสัย อายมี่อยากตั้งคำถามว่า “นกนี้ชื่ออะไร?”
ทันทีหลังจากนั้น หนูสัมภูตจากต้นไม้กระโดดลงมา มองอย่างหลงตาอยู่ในอายมี่ อายมี่ยิ้มและบอกว่า “สวัสดี หนูสัมภูต! คุณสามารถบอกชื่อของคุณได้ไหม?”
หนูสัมภูตสวยตามตัว และตอบด้วยความยินดี “ชื่อของฉันคือสปิค! ฉันสามารถช่วยคุณหาคำศัพท์ซ่อนตาไว้ในป่าได้”
อายมี่ตอบรับกับความยินดี ฐานที่นั้นอายมี่และหนูสปิคเดินทางกันเข้าป่าเพื่อหาคำศัพท์ซ่อนตา พวกเขามาถึงสนามหญ้า อายมี่เห็นหนูวัวที่กำลังกินหญ้าอยู่ สปิคบอกอายมี่ว่า “นี่คือหนูวัว ชื่อของมันคือเบลล่า”
อายมี่กินต่อไป ซึ่งเธอได้พบต้นไม้แอบออกผลหวานที่มีผลงอดแดงติดอยู่ สปิคบอกว่า “ผลอาหารนี้หวานมาก สามารถนำไปบ้านได้”
อายมี่และสปิคใช้มือกล้าวผลออกมาได้ และนำไปที่แต้งหลังเต็มไปด้วยผลหวาน พวกเขาเดินต่อไปไปถึงทะเลสาบเล็กที่มีน้ำที่สะอาด อายมี่เห็นปลาวายนวิ่งในน้ำ เสปิคบอกว่า “ปลาที่นี้เรียกว่าปลาเงิน มันชอบวายนวิ่งในน้ำ”
อายมี่เดินไปและเรียนรู้ในทุกมุมมุมของป่าที่มีอะไรน่าสนุกเสมอ อายมี่และสปิคอยู่ร่วมกันสนุกในป่าโดยที่เรียนรู้คำศัพท์ใหม่จากทุกอย่างที่เธอพบ
อายมี่และสปิคกลับบ้านมาด้วยกัน อายมี่บอกประสบการณ์การเดินทางของเธอให้ครอบครัวฟัง และเธอแบ่งปันคำศัพท์ที่เรียนรู้มาจากป่ากับพวกเขา ครอบครัวของเธอทุกคนรู้สึกยินดีที่เธอเติบโตและมีผลงานเรียนรู้ที่ดี และพวกเขาร่วมกันฉลองความเติบโตและผลงานของอายมี่
ปล้ำเพื่อเราพลาดไม่ได้จะแปลเป็นภาษาไทย ตรงนี้คือ:”โปรดดิจฉานามว่ามันเป็นสัตว์อะไร”
- แสดงให้เด็กเห็นการ์ดภาพที่มีสัตว์หลากหลายเช่น แมว หมา รั้ว ปลา และอื่น ๆ
- ให้เด็กปิดตาแล้ว คุณไปเอาภาพหนึ่งออกจากการ์ด
- ให้เด็กแยกกันทำการคาดเดาว่าภาพที่ถูกเอาออกมาคือสัตว์อะไรfour. เมื่อเด็กคนหนึ่งคาดเดาตอบต่อได้ ขอให้พวกเขาบอก “สัตว์นี้คืออะไร? คุณจะพูดชื่อสัตว์นี้ด้วยภาษาอังกฤษได้ไหม?”
- ถ้าเด็กที่คาดเดาตอบต่อได้ถูกต้อง ให้เล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?”
- ถ้าเด็กที่คาดเดาตอบต่อได้ถูกต้อง ให้เล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?”
- หลังจากที่เด็กที่คาดเดาตอบต่อได้ถูกต้อง ให้เอาภาพอีกภาพหนึ่งออกจากการ์ด จนกว่าทุกภาพที่มีสัตว์จะถูกคาดเดาออกมาทั้งหมด
เช่น:
- แสดงภาพ:หนุนหนึ่งตัวและแมวตัวหนึ่ง
- ลูกคนA คาดเดา “คือแมวไหม?”
- ตอบข้อที่ผิด คุณให้ความชี้แจง “นี่คือหนุนเล็ก ไม่ใช่แมว”
- ลูกคนB คาดเดา “คือหนุนไหม?”
- ตอบข้อที่ถูกต้อง คุณให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือหนุน คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?”
- ลูกคนB พูด “chook” ตามที่ความรู้ของเขา คุณให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘bird’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘bird’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘bird’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘bird’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘bird’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘fowl’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chicken’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘chook’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘bird’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว์นี้ คุณจะพูด ‘hen’ ได้ไหม?” และให้การเล่าว่า “ใช่แล้ว! นี่คือสัตว